ต้นกุหลาบหิน Kalanchoe วิธีปลูกเลี้ยง ดูแล ซื้อที่ไหน ราคาถูก
กุหลาบหิน กาลังโช (Kalanchoe) เป็นไม้ประดับกระถาง เป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกทั้งในและนอกอาคาร แต่ปลูกได้ดีเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพราะเป็นพืชชอบแดด กุหลาบหินมีใบค่อนข้างกลมเป็นหยักมนซ้อน ๆ กัน คล้ายดอกกุหลาบ แต่ไม่อ่อนช้อยจึงได้ชื่อว่า "กุหลาบหิน"
ต้น 'กุหลาบหิน' กาลังโช (Kalanchoe)
กุหลาบหินเป็นไม้อวบน้ำอายุหลายปีมีพุ่มเตี้ยสูง 30 - 40 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3 นิ้ว กว้าง 1.5 นิ้ว ขอบใบหยักเล็กน้อย การจัดเรียงของใบเป็นแบบตรงกันข้ามสลับตั้งฉาก (Decussate) ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกชูสูงเหนือพุ่มใบ เป็นดอกย่อยขนาดเล็กๆ จำนวนมาก
![]() |
กุหลาบหินดอก ไม้ดอกสวย ไม้อวบน้ำ...ขายไปแล้ว 3,567+ ชิ้น | ★★★★★ (387+)
|
ปัจจุบันมีพันธุ์ที่เป็นพุ่มเตี้ยกะทัดรัดใบขนาดเล็ก และมีดอกสีต่างๆ เช่น ชมพู ส้ม เหลือง ฯลฯ ออกดอกฤดูกาลเดียว คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม เป็นพืชที่เลี้ยงง่าย แตกหน่อไว ถ้าขยันแยกหน่อกุหลาบหินจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
มีบางคนนิยมปลูกกุหลาบหินเป็นไม้มงคล เพื่อถือเคล็ดว่า ปลูกแล้วจะร่ำรวยเป็นเศรษฐี อย่างไรก็ตามกุหลาบหินเป็นไม้ประดับที่น่าสนใจที่รูปทรงดูสวยแปลกตาแตกต่างจากไม้ชนิดอื่น
กุหลาบหิน กาลังโช (Kalanchoe) พันธุ์ต่างๆ
กุหลาบหิน จัดอยู่ในวงศ์ (Family) Crassulaceae ในสกุล Kalanchoe ทั่วโลกมีจำนวนสมาชิกในสกุลนี้ มากกว่า 150 ชนิด ปัจจุบันพันธุ์พื้นเมืองไม่เป็นที่นิยมปลูก เนื่องจากมีทรงพุ่มที่เก้งก้างไม่สวยงาม
พันธุ์ดอกสีแดง เช่น Ramona และ Tetra Vulcan นิยมปลูกมากที่สุด ทั้งนี้เพราะสีแดง ดอกสวยสดใสสะดุดตา ช่อดอกดกดอกมีขนาดใหญ่ พุ่มต้นกะทัดรัด แต่เป็นพันธุ์หนัก
![]() |
กุหลาบหิน Kalanchoe Tomentosa Panda ไม้อวบน้ำ...ขายไปแล้ว 107+ ชิ้น | ★★★★★ (30+)
|
นอกจากนั้นมีพันธุ์ดอกสีชมพู เช่น Adagio, Largo ดอกสีเหลือง เช่น Yelow tom thum , Morning Sun ดอกสีส้ม เช่น Exotica, Nugget, Pixic, Rhumba และได้มีการผสมพันธุ์ เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ ๆ หลายพันธุ์
โดยเฉพาะพันธุ์ในชุด “Aztac kalanchoc ” ซึ่งรู้จักแพร่หลายในต่างประเทศขณะนี้ ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ ออกดอกเร็วกว่า อาจใช้เวลาเพียง 1 ถึง 4 สัปดาห์ในช่วงวันสั้น ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์มีหลายสีหลายพันธุ์ เช่น Princess และ Conquistador เป็นต้น
การขยายพันธุ์ กุหลาบหิน กาลังโช (Kalanchoe)
1. การเพาะเมล็ด กุหลาบหิน
การเพาะเมล็ด ดังได้กล่าวมาแล้วว่า เมล็ดกุหลาบหินมีขนาดเล็กมาก เล็กกว่าเมล็ดกล็อกซีเนียและอัฟริกันไวโอเล็ต จนเกือบจะกล่าวได้ว่าเล็กที่สุดในบรรดาไม้ดอกทั้งหลาย เมล็ดหนัก 1 ออนซ์ มีถึง 1,000,000 – 2,500,000 เมล็ด (บีโกเนียมี 2,000,000 เมล็ด แล้วแต่พันธุ์)
ดังนั้น การเพาะเมล็ดจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งวัสดุที่ใช้เพาะจะต้องสะอาดและมีขนาดเล็ก (fine) เก็บความชื้นได้พอเหมาะพอดีไม่แฉะเกินไป เพราะถ้าแฉะเกินไปจะทำให้เมล็ดเน่าก่อนงอก ในต่างประเทศใช้พีทและเวอร์มิคูไลต์เบอร์ 4 อัตราส่วน 1:1
การเพาะเมล็ดควรใช้วิธีหว่านลงบนวัสดุเพาะโดยไม่ต้องกลบ เมล็ดจะสอดแทรกเข้าไปในช่องว่างของวัสดุที่ใช้เพาะได้เอง แต่เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายเลี้ยงง่าย จึงงอกได้เร็วและง่ายกว่าดอกไม้ดอกอื่น ๆ
![]() |
หูกระต่าย #กอ Kalanchoe Tomentosa Chocolate Soldier...ขายไปแล้ว 102+ ชิ้น | ★★★★★ (27+)
|
ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 21°C อากาศร้อนทำให้เมล็ดงอกเร็ว กุหลาบหินจะงอกภายใน 5-7 วัน (สมเพียร เกษมทรัพย์, 2526)
ต้นกล้ากุหลาบหินเจริญเติบโตช้ามาก ปกติต้องใช้เวลานับจากเพาะประมาณ 7-8 สัปดาห์ จึงจะได้ต้นที่มีขนาดพอเหมาะที่จะย้ายได้ โดยย้ายลงกระถางหมู่ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2x2 นิ้ว
เลี้ยงดูต้นเจริญเติบโตและขอบใบชนกันจึงย้ายปลูกในกระถางเดี่ยวขนาด 3 นิ้ว และต่อ ๆ ไปนับจากเพาะเมล็ดจนออกดอกใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือนทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์
2. การปักชำ กุหลาบหิน
การปักชำ ทำได้ทั้งยอดและใบ แต่ได้กล่าวมาแล้วว่า ในต่างประเทศได้มีการคัดพันธุ์จนได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะดีเด่นมากมาย พร้อมกับมีการจดทะเบียนสงวนลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อย ตามกฎหมายแล้วสงวนสิทธิ์ในการทำกิ่งปักชำ จำหน่ายเฉพาะผู้ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น โดยผู้ปลูกจะต้องซื้อกิ่งปักชำจากผู้ผลิต
แต่ถ้าต้องการจะทำกิ่งปักชำเอง โดยซื้อต้นแม่พันธุ์มาทำเป็นสต็อค จะต้องขออนุญาตอย่างเป็นทางการและเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายกิ่งให้กับผู้ทรงสิทธิ์นั้นด้วย จะขยายพันธุ์เอง โดยพลการย่อมไม่ได้ถือว่าผิดกฎหมายมีโทษอย่างแรง
การปักชำยอดทำได้ง่ายและสะดวกมาก เพียงแต่ตัดส่วนยอดให้มีความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ริดใบล่างออกบ้าง นำไปปักชำในทรายผสมถ่านแกลบอัตราส่วน 1:1 จะออกรากภายใน 2 สัปดาห์และย้ายปลูกได้เลย
การปักชำใบทำได้ง่ายมากแม้จะต้องใช้เวลานานกว่าจะงอกเป็นต้นใหม่ คือ หลังจากปักชำแล้วจะออกรากที่โคนก้านใบภายใน 2 สัปดาห์ และจะออกต้นใหม่ในประมาณ 2 เดือน
![]() |
กุหลาบหินด่าง กระถาง 3 นิ้ว ต้นไม้ด่าง ไม้อวบน้ำ...ขายไปแล้ว 85+ ชิ้น | ★★★★★ (22+)
|
วัสดุที่ใช้สำหรับปักชำ
วัสดุปลูกที่ใช้สำหรับปักชำ อาจจะใช้ทรายอย่างเดียวก็ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทรายผสมถ่านแกลบในอัตราส่วน 1:1 ปรากฏว่าทรายผสมถ่านแกลบได้ผลดีทั้งปริมาณรากและการงอกของต้นใหม่
ใบที่ใช้จะใช้ใบขนาดไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นใบเล็กหรือใบใหญ่ ใบอ่อนหรือใบแก่ ทั้งนี้เพราะใบที่ได้จากต้นที่ออกดอกแล้วจะมีความสมบูรณ์และอายุพอสมควรแล้วทั้งสิ้น แต่ที่สำคัญคือจะต้องมีก้านใบติดไปประมาณ 0.5 - 1 นิ้วเสมอ ทั้งนี้เพื่อใช้ปักชำลงไปในวัสดุ
เพราะเนื่องจากเพียงต้นเดียวสามารถตัดใบทุกใบไปชำได้ ดังนั้น ถ้าจะตัดชำทุกต้นในหนึ่งต้นอาจจะมีถึง 15 ใบ จะได้ปริมาณใบมากมาย จึงควรชำในกระบะหรือตะกร้าพลาสติกโดยบรรจุวัสดุชำที่คลุกเคล้ากับน้ำสะอาดให้มีความชื้นพอดี ๆ และสม่ำเสมอ ลงไปในตะกร้าประมาณ 0.5 ของความสูง
เกลี่ยหน้าดินให้เรียบเสมอกันโดยตลอด ทำแนวโดยการตีเส้นตามทางยาวของตะกร้า แต่ละเส้นห่างกันประมาณ 2.5 จะได้ 4 แนว จิ้มใบลงตามแนวที่ตีไว้อย่างมีระเบียบ เรียงซ้อนกันให้หันหน้าใบไปทางเดียวกัน แต่ละใบห่างกันประมาณ 1.5 - 2 นิ้วรดน้ำจนโชก บรรลุลงในพลาสติกใส รวบปากถุงด้วยเชือกให้แน่น
แล้วผูกโยงปากถุงไว้กับอะไรก็ได้ เพียงเพื่อไม่ให้ปากถุงทับลงไปบนใบที่ชำ นำถุงไปไว้ที่ร่มและเย็นโดยไม่ต้องเปิดออกรดน้ำอีกเลยประมาณ 3 สัปดาห์ นำตะกร้าออกจากถุงไปวางไว้ในที่ร่มให้แสงแดดเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรได้รับแสงแดดโดยตรง
การรดน้ำ ควรรดน้ำตามความจำเป็นไม่ควรให้แฉะเกินไป ปกติวันละครั้งในตอนเช้า รอจนกว่าต้นใหม่จะงอกและต้นมีขนาดโตพอสมควร จึงย้ายปลูกต่อไป นับจากวันปักชำจนถึงขั้นนี้ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
การย้ายปลูกครั้งนี้จะย้ายลงกระถางขนาดเล็กประมาณ 3 นิ้ว ก่อนหรือจะลงในกระถางที่ใช้ปลูกจริงก็ได้ ปกติถ้าปลูกโดยใช้กิ่งปักชำ จะใช้เวลาจนออกดอกนับจากวันปลูกและเริ่มได้รับวันสั้นประมาณ 70 ถึง 100 วันทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์
การปลูก วิธีเลี้ยง และการดูแลรักษา
ดินปลูกต้นกุหลาบหิน ที่ใช้ปลูกควรมีการระบายน้ำดี อย่างไรก็ตามกุหลาบหินไม่ต้องพิถีพิถันเรื่องดินปลูกมากนักควรวางไว้นอกชายคาใต้ร่มเงาต้นไม่ใหญ่เพื่อที่จะรับน้ำฝนในช่วงฤดูฝน โดยที่ผู้ปลูกไม่จำเป็นต้องรดน้ำเลย นอกจากฝนจะทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานาน ๆ เท่านั้น
ถ้าจะปลูกควรปลูกประมาณเดือนกันยายน ถ้าต้องการให้กุหลาบหินดอกบานนอกฤดู ก็อาจทำได้ คือ หลังจากต้นสมบูรณ์เต็มที่แล้วเริ่มกางมุ้ง โดยใช้ผ้าซาติน สีดำคลุมในลักษณะกางมุ้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 1 เดือน ดอกจะบานหลังจากวันเริ่มกางมุ่งประมาณ 100 วัน
โดยธรรมชาติ กุหลาบหินจะฟอร์มตาดอกในช่วงกลางวันสั้นคือประมาณเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น นับจากเริ่มชำใบในเดือนเมษายน จนกระทั่งเป็นต้นและย้ายปลูกได้ในต้นเดือนกรกฎาคม กุหลาบหินจะมีเวลาเจริญเติบโตอีกประมาณ 4 เดือน ก่อนจะฟอร์มตาดอกในเดือนพฤศจิกายน และสังเกตเห็นช่อดอกชัดเจนในเดือนธันวาคม
ในต่างประเทศใช้พีท เพอร์ไลท์และดินอัตราส่วน 1:1:1 ประเทศไทยเครื่องปลูกที่มีแกลบผุและถ่านแกลบเป็นส่วนผสม ส่วนที่เหลือจะเป็นดิน ปุ๋ยคอก ทราย หรือวัสดุอื่นใดก็ได้เพียงแต่ให้มีการระบายน้ำดีเยี่ยม
โดยเฉพาะถ้าปลูกในกระถางพลาสติก pH ของเครื่องปลูกควรอยู่ระหว่าง 6-7.0 และควรเติมปูนดิบหรือปูนขาวในเครื่องปลูกด้วยทุกครั้งที่ใช้ปลูกกุหลาบหิน
ขนาดของกระถางที่ใช้สำหรับปลูกจำหน่าย ควรใช้กระถางสแตนดาร์ด 4 หรือ 6 นิ้วนอกจากพันธุ์ที่มีต้นขนาดเล็กมากจึงจะใช้กระถางขนาด 3 นิ้ว ในต่างประเทศที่ปลูกกุหลาบหินเป็นไม้กระถางจำหน่าย อาจจะปลูกกระถางละ 1 ต้น หรือมากกว่า 1 ต้น ก็ได้
ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์ขนาดของกระถางและความต้องการของตลาด แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกระถาง 6 นิ้ว สำหรับพันธุ์ที่มีพุ่มต้นไม่ใหญ่มากจะปลูก 3 ต้น เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าแต่ถ้าเป็นพันธุ์ต้นใหญ่เช่นพันธุ์ Mace ควรปลูก 1 ต้นต่อกระถาง
ข้อควรระวังอย่างยิ่งในการปลูกกุหลาบหิน คือ อย่าปลูกลึกจนกลายเป็นฝังควรปลูกตื้น ๆเพียงเพื่อให้เฉพาะส่วนรากอยู่ในดินเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการย้ายกล้าปลูกหรือย้ายกิ่งชำปลูกก็ตาม
การเด็ดยอดกุหลาบหิน
ปกติการปลูกไม้ดอกเพื่อทำเป็นไม้กระถางนั้นต้องการพุ่มต้นกว้างขนาดกะทัดรัด ไม่สูงเก้งก้าง ดังนั้นการเด็ดยอดจึงจำเป็นมาก สำหรับกุหลาบหินก็เช่นเดียวกัน การเด็ดยอดจะช่วยให้
- พุ่มต้นกว้างขึ้นเนื่องจากการเกิดยอดจากตาข้างเพิ่มมากขึ้น
- ทำให้ต้นเตี้ยลงและมีจำนวนช่อดอกเพิ่มขึ้น
- ทำให้การเกิดช่อดอกและดอกบานในเวลาไล่เลี่ยกัน
ในต่างประเทศปกติจะเด็ดยอดพร้อมกันกับที่จะให้กุหลาบหินได้รับวันสั้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดช่่อดอก ยกเว้นบางพันธุ์จะเด็ดยอดล่วงหน้าชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้มีการเจริญเติบโตทางต้นคือประมาณ 4 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มให้วันสั้น แต่ในประเทศไทยไม่ได้ทำการค้าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ดังเช่นในต่างประเทศ การซื้อขายไม้ดอกเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสมัสต์ปีใหม่เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่การซื้อขายจะอยู่ในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นการปลูกกุหลาบหินจึงปล่อยให้มีการเจริญเติบโตและออกดอกตามธรรมชาติ
ดังได้กล่าวไว้แล้วว่าประเทศไทยจะเริ่มวันสั้นประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ดังนั้นจึงควรเด็ดยอดในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งกุหลาบหินจะออกดอกทันใช้ประโยชน์หรือจำหน่ายในเทศกาลพอดี
วิธีการเด็ดยอดสำหรับกุหลาบหินนั้น ไม่สามารถใช้มือเปล่าเด็ดได้ ต้องใช้มีดคม ๆ หรือกรรไกรเล็กสำหรับตัดต้นไม้ตัดเฉพาะส่วนยอดออกเป็นการเด็ดยอดแบบ Softpinch เหลือใบกับต้น 2-3 คู่
การรดน้ำและปุ๋ย สำหรับต้นกุหลาบหิน
เนื่องจากกุหลาบหินเป็นไม้อวบน้ำ จึงสามารถทนแล้งได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงกลางวันสั้น ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เกิดตาดอกและออกดอกจะมีความต้องการน้ำน้อยกว่าช่วงกลางวันยาว คือ ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตทางต้น (Vegetative growth) ของกุหลาบหิน
ดังนั้นการปลูกกุหลาบหินเป็นไม้กระถาง นอกจากจะใช้เครื่องปลูกที่มีลักษณะโปร่งมีการระบายน้ำดีแล้วยังต้องระมัดระวังเรื่องการรดน้ำด้วย ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันควรรดตามความจำเป็น อาจจะรอวันเว้นวันสองวัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสะสมของเกลือ การรดน้ำกุหลาบหินมากเกินไปจะเกิดปัญหารากและยอดเน่า (Root rot และ Crown rot)
ถ้ามีโปรแกรมการคปุ๋ยไปพร้อมกับการรดน้ำ ควรใช้ปุ๋ยสูตร 20-20-20 เข้มข้น 200 ppm.คือละลายปุ๋ย 2 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร รดหรือพ้นไปบนต้นก็ได้ แต่ถ้ามีโปรแกรมให้ปุ๋ยแยกจากการรดน้ำแนะนำให้ใช้โดยการพ่นสัปดาห์ละครั้งด้วยความเข้มข้น 600 ppm คือ ละลายปุ๋ยสูตร 20-20-20 6 กรัมในน้ำ 10 ลิตร และอาจจะสลับกับปุ๋ย สูตร 25-40-25 ก็ได้