พืชและสวน

มวนนักกล้าม แมลงศัตรูพืชตระกูลถั่ว ถั่วลิสง ถั่วแระ ถั่วฝักยาว...

มวนนักกล้าม คืออะไร มวนนักกล้าม ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anoplocnemis phasiana (Fabricius, 1781) จัดอยู่ในอันดับ (Order) Hemiptera วงศ์ (Family) Coreidae มวนชนิดนี้มีลำตัวโตยาวประมาณ 20-30 มิลลิเมตร สันหลังของอกปล้องแรกกว้างที่สุดประมาณ 7-10 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีต่างกันไปตั้งแต่สีเหลืองปนน้ำตาลอ่อน น้ำตาลแก่ปนแดง หรือมีสีแก่จนเกือบดำ photo: Sripathiharsha หนวดมีสีคล้ายกับลำตัวยกเว้นปล้องสุดท้ายมีสีอ่อนกว่า ส่วนท้องด้านบนมีสีแดงยกเว้นตรงขอบและปลายสีเกือบดำ โคนขาหลัง (femur) มีขนาดใหญ่โต ตามขอบมีลักษณะเป็นปุ่มหรือฟันเล็กๆ คล้ายฟันเลื่อย มีปุ่มที่โคนและปลายข้างละปุ่มโตกว่าปุ่มตามขอบ ส่วนท้องทางด้านข้างของลำตัวปล้องที่ 2-3 มีขอบโป่งออกมา ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยชอบดูดกินยอดและฝักอ่อนของพืชตระกูลถั่วเป็นอาหาร ถั่วที่ถูกทำลายได้รับความเสียหายมาก เช่น ถั่วลิสง ถั่วแระ ถั่วฝักยาว เป็นต้น โดยดูดกินตรงยอดอ่อน ใบ ดอก และฝัก ทำให้ต้นเหี่ยว ฝักแห้งและร่วงหล่นก่อนกำหนด ถ้าหากมีแมลงเหล่านี้ระบาดมากๆ อาจทำให้ต้นเสียหาย ไม่มีฝัก หรือผลที่จะเก็บได้ จึงจัดได้ว่าเป็นแมลงศั

ลูกผักชี (เมล็ดผักชี) สรรพคุณ ประโยชน์ ใช้ทำอะไร สารสำคัญ..

ลูกผักชี คืออะไร? ผักชี มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coriandrum sativum L. จัดอยู่ในวงศ์ APIACEAE ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ Coriander, cilantro ผักหอม ผักหอมน้อย ผักหอมป้อม ผักหอมผอม ยำแย้ และผักชีลา มีถิ่นกำเนิดอยู่ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแพร่พันธุ์ทั่วไปในเขตอบอุ่นและกึ่งร้อน ในประเทศไทยปลูกได้ทั่วทุกภาค ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นผักชี เป็นไม้ล้มลุกฤดูเดียว ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ลำต้นเรียวยาว สูง 10 - 40 ซม. ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น ใบย่อยเป็นเส้นฝอย ดอกช่อแบบซี่ร่มสองชั้น ออกที่ปลายยอดและซอกกิ่ง ดอกย่อยสีขาวหรือขาวแกมชมพู ส่วนของผลแห้งหรือที่เรียกกันว่า " ลูกผักชี " ลูกผักชี เม็ดผักชี อ.ฝาง เชียงใหม่ เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » ลักษณะ ลักษณะภายนอก ผลทรงกลม สี น้ำตาล ผิวเห็นเป็นสันนูนชัดเจน แตกเป็น 2 ซีก เห็นเส้นกลางในผลชัดเจน ขนาดความยาว 0.3 - 0.4 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.2 - 0.3 ซม. ลูกผักชี ใช้ทำอะไร ลูกผักชีมีกลิ่นหอมเฉพาะและรสเผ็ด นำมาใช้ประโยชน์เป็นเครื่องเทศในการประกอบอาหาร หรือใช้เป็นส่วนผสมในตำรับย

ใบบัวบก สรรพคุณ สมุนไพร สารสำคัญ ประโยชน์ บำรุงผิวพรรณ

บัวบก สมุนไพร บำรุงผิวพรรณ บัวบก ( Centella asiatica (L.) Urb.) สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในด้านการใช้เป็นอาหาร และยาสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้เป็นเครื่องสําอาง จะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในท้อง ตลาดหลายยี่ห้อที่มีการใช้สารสกัดจากบัวบก หรือ Centella extract เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณทั้งผิวหน้าและผิวกายในหลากหลายรูปแบบ เช่น ครีม โลชั่น เจล หรืออิมัลชัน บัวบกมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่สนับสนุนการใช้ประโยชน์ทางเครื่องสำอางสำหรับผิว ได้แก่ ต้านอนุมูลอิสระ, ทำให้ผิวขาว, ผิวชุ่มชื้น, ลดเลือนริ้วรอย, ทำให้ผิวอ่อนเยาว์, ต้านสิว , ต้านการอักเสบ และรักษาแผล เป็นต้น เมล็ดพันธุ์ บัวบก ราคาถูก เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » ซึ่งสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในบัวบก คือ สารกลุ่มไตรเทอร์ปีนอยด์ (triterpenoids) ได้แก่ asiatic acid , madecassic acid , สารกลุ่มซาโปนิน (saponins) ได้แก่ asiaticoside , madecassoside สําหรับการศึกษาทางคลินิกของผล

ต้นเทียนกิ่ง (เฮนน่า) ลักษณะ สารสำคัญ สรรพคุณ ใช้ประโยชน์.

เทียนกิ่ง คืออะไร? เทียนกิ่ง ( Lawsonia inermis L.) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ เฮนน่า ” ( Henna ) เป็น สมุนไพรที่มีประโยชน์ทั้งในด้านการนำมาใช้ เป็นยาและด้านเครื่องสำอาง สารสำคัญใน เทียนกิ่ง คือ ลอว์โซน (lawsone หรือ 2- hydroxy-1,4-naphthoquinone) ซึ่งเป็นสาร กลุ่มแนพโทควิโนน (naphthoquinones) ที่ ให้สีส้มแดง พบมากที่สุดในส่วนของใบ  สามารถนำมาใช้เป็นยาย้อมผมจากธรรมชาติ ใช้ทาร่างกาย และตกแต่งสีเล็บ ฝ่ามือและฝ่าเท้า สรรพคุณในตำรายาไทย ใบเทียนกิ่งใช้แก้ปวดนิ้วมือ นิ้วเท้า เล็บขบ ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน รักษา กามโรค แก้ปวดท้อง ห้ามเลือด แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลฟกช้ำ ใช้ย้อมผม เล็บ ขน แก้ท้องเสีย ขับ ปัสสาวะ เป็นต้น รากใช้ขับประจำเดือน ขับปัสสาวะ ดอกใช้ขับประจำเดือน แก้ปวดศีรษะ ต้นเทียนกิ่ง (เฮนน่า) สมุนไพร เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » จากรายงานการศึกษาวิจัย พบว่าเทียนกิ่งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย ได้แก่ ฤทธิ์ต้านเชื้อรา, ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ต้านการอักเสบ, แก้ปวด, ต้านมะเร็ง, ต้านอนุมูลอิสระ,

ต้นเทียนแพงพวย (เทียนชมพู) ไม้ถิ่นเดียวของไทย จ.กาญจนบุรี

เทียนแพงพวย (เทียนชมพู) เทียนแพงพวย ชื่อวิทยาศาสตร์ Impatiens spectabilis Triboun & Suksathan อยู่ในวงศ์เทียน (Balsaminaceae) ต้นเทียนแพงพวย เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว มักพบขึ้นบนเขาหินปูน ลำต้นอวบน้ำ แตกกิ่งมาก ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ถึงรูปใบหอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ พบบ้างที่ออกเป็นกระจุก 2 ดอก ก้านดอกเรียวยาว กลีบดอกสีชมพูสด กว้างประมาณ 4 ซม. ผลรูปกระบอง แตกง่ายเมื่อสัมผัส เทียนแพงพวย หรือ เทียนชมพู เป็นพรรณไม้ถิ่นเดียวของไทย (endemic) พบมีการกระจายพันธุ์ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้แถบจังหวัดกาญจนบุรี อาจพบได้ในฝั่งเมียนมาถ้ามีการสำรวจเพิ่มขึ้น ตัวอย่างต้นแบบ Triboun, Boonnuang & Keeratikiat 3889 เก็บจากเขาหินปูนในเขตอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2008 เทียนชนิดใหม่นี้เป็นการร่วมกันเก็บตัวอย่างและตีพิมพ์โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดย 3 คนเป็นเพื่อนซี้ร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เอกสารอ้างอิง: Suksathan, P. & Triboun, P. 2009. Ten New Species of Impatiens (Balsaminaceae) from Thailand. Gardens’ Bulletin Singapore 6

ผีเสื้อหางติ่ง สกุลย่อย Achillides ที่พบในประเทศไทย มีกี่ชนิด?

ผีเสื้อหางติ่งที่ผู้เขียนกล่าวถึงในบทความครั้งนี้ เป็น ผีเสื้อกลางวัน ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ในวงศ์ผีเสื้อหางติ่ง Papilionidae วงศ์ย่อย Papilioninae เผ่า Papilionini สกุล Papilio Linnaeus, 1758 สกุลย่อย Achillides Hübner, [1819] มีชื่อสามัญว่า " Peacock "  เนื่องจากลักษณะทางด้านใต้ของปีกคู่หลังบริเวณขอบปีก มีจุดลวดลายเป็นวงสีแดงเรียงตัวตามขอบปีกนี้ (submarginal spots) ดูคล้ายกับนกยูงยามรำแพนหาง อีกทั้งด้านบนของปีกผีเสื้อกลุ่มนี้มักมีสีสันสดใส สีเขียว สีเขียวอมฟ้า หรือสีฟ้า จึงเป็นที่มาของชื่อสามัญนี้ ในประเทศไทยพบ ผีเสื้อหางติ่ง สกุลย่อยนี้ จำนวน 4 ชนิด คือ 1. ผีเสื้อหางติ่งปารีส ผีเสื้อหางติ่งปารีส ชื่อวิทยาศาสตร์ Papilio paris Linnaeus, 1758 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Paris Peacock ผีเสื้อเพศผู้และเพศเมียมีลักษณะใกล้เคียงกัน พบอาศัยในป่าดิบชื้น พื้นที่ต่ำจนถึงพื้นที่ระดับความสูงประมาณ 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พบได้บ่อยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้พบได้ในบางพื้นที่ แต่ไม่พบในพื้นท

ต้นม่วงเขาพ่อตาหลวงแก้ว พรรณไม้ถิ่นเดียวของไทย จ.ระนอง..

ม่วงเขาพ่อตาหลวงแก้ว ม่วงเขาพ่อตาหลวงแก้ว ชื่อวิทยาศาสตร์ Codonoboea porphyrea (B. L. Burtt) D. J. Middleton วงศ์ชาฤาษี (Gesneriaceae) ไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม อวบน้ำ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปไข่ถึงรูปไข่แกมรูปใบหอก ผิวด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีแค่ 1 ดอก ก้านดอกเรียวยาว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปแถบ กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีม่วง ผิวด้านนอกมีขนสั้นมีต่อม ปลายแยกเป็น 5 แฉก แยกเป็นซีกบน 2 แฉก บิดขี้น ด้านในสีม่วงจาง ซีกล่างมี 3 แฉก สีม่วงเข้ม ตรงโคนบริเวณคอหลอดดอกมีแถบสีเหลืองเข้ม 2 แถบ ม่วงเขาพ่อตาหลวงแก้ว เป็นพรรณไม้ถิ่นเดียวของไทย (endemic) พบมีการกระจายพันธุ์ทางภาคใต้แถบระนองถึงนครศรีธรรมราช ตัวอย่างต้นแบบ Geesink, Hattink & Charoenphol 7417 เก็บจากเขาพ่อตาหลวงแก้ว จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 1974 ตัวอย่างที่เก่าที่สุดเก็บโดยหมอคาร์ (A. F. G. Kerr) ซึ่งท่านขึ้นเขาพ่อตาหลวงแก้วทางด้านคลองกำพวน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1929 เอกสารอ้างอิง: Burtt, B. L. 2001

ต้นปาล์มยะวา (ปาล์มชวา) สูงแค่ไหน ลักษณะ ประโยชน์ ราคา..

ปาล์มยะวา (ปาล์มชวา) ปาล์มยะวา มีชื่อเรียกอื่นอีกว่า ปาล์มชวา, ปาล์มตาล และมีชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) ว่า Footstool palm, Java palm, Anahaw palm, Round-leaf Fan Palm, Serdang ปาล์มยะวา (ปาล์มชวา) เดิมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Livistona rotundifolia (Lam.) Mart. แต่ภายหลังถูกเปลี่ยนใหม่ เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Saribus rotundifolius (Lam.) Blume จัดอยู่ในวงศ์ Arecaceae ซึ่งทำให้ชื่อเดิม Livistona rotundifolia กลายเป็นเพียงชื่อพ้อง (synonyms)ไป ซึ่งมีชื่อพ้องอีกหลายชื่อ เช่น Corypha rotundifolia Lam., Licuala rotundifolia (Lam.) Blume, Livistona altissima Zoll., Livistona microcarpa Becc., Livistona mindorensis Becc., Livistona robinsoniana Becc. เป็นต้น ปาล์มยะวา ไม่ใช่พรรณไม้พื้นเมืองของไทย แต่เป็นปาล์มที่มาจากต่างประเทศ Exotic Palm มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย, Borneo, Maluku, New Guinea, Philippines, Sulawesi ที่ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเพื่อเป็นไม้ประดับ ซึ่ง ต้นปาล์มยะวา ราคา ขึ้นอยู่กับขนาด ต้นเล็ก ต้นใหญ่ ฟอร์ม และความสมบูรณ์ของต้นปาล์มยะวา ลักษณะ

ผีเสื้ออัปสรเส้นรัศมี และ ผีเสื้อปิกาโซ ผีเสื้อกลางคืน ลายสีสวย..

เมื่อกล่าวถึงผีเสื้อกลางคืน ภาพจำของผู้คนส่วนมากมักนึกถึงผีเสื้อที่ไม่มีสีสันหรือไม่มีลวดลายที่สวยงานประดับอยู่บนปีก ดังเช่นที่พบในผีเสื้อกลางคืนส่วนมากในวงศ์ผีเสื้อหนอนกระทู้ (Family Noctuidae) ซึ่งเป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็กที่มักเป็นศัตรูพืช photo by วิมลวรรณ โชติวงศ์ แต่ในความจริงแล้วนั้นยังมีผีเสื้ออีกหลายชนิดในวงศ์ผีเสื้อหนอนกระทู้นี้ ที่มีสีสันและลวดลายโดดเด่นสวยงาม ในบทความครั้งนี้ผู้เขียนจึงขอแนะนำและกล่าวถึงผีเสื้อสองชนิดในวงศ์นี้ที่น่าสนใจ มีลักษณะที่โดดเด่นกว่าผีเสื้อชนิดอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันได้แก่ " ผีเสื้ออัปสรเส้นรัศมี " และ " ผีเสื้อปิกาโซ " ผีเสื้ออัปสรเส้นรัศมี โดย “ผีเสื้ออัปสรเส้นรัศมี” ชื่อวิทยาศาสตร์ Apsarasa radians (Westwood, 1848) อยู่ในวงศ์ย่อย Noctuinae สกุล Apsarasa Moore, 1867 มีชื่อสามัญว่า " Radiating Owlet " photo by สุนัดดา เชาวลิต เนื่องจากลักษณะของลวดลายในปีกคู่หน้า มีลวดลายคล้ายเส้นรัศมีแผ่ออกจากแถบสีเข้มตรงกลางปีกไปยังส่วนของขอบปีก จึงเป็นที่มาของชื่อชนิด " radians &qu

ต้นเจ็ดช้างสารใหญ่ ปัดกาบยาว ปัดน้ำเงินขนดำ ชื่อวิทยาศาสตร์

เจ็ดช้างสารใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Lasianthus hirsutus (Roxb.) Merr. อยู่ในวงศ์ Rubiaceae มีชื่ออื่น คือ ปัดกาบยาว, ปัดน้ำเงินขนดำ เป็นต้น ในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม เป็นช่วงที่เจ็ดช้างสารใหญ่กำลังออกดอก สถานที่เที่ยวชมได้สะดวก คือ เขาสอยดาว เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ็ดช้างสารใหญ่ เป็นไม้พุ่ม สูง 1–2 ม. กิ่งและใบมีขนหยาบแข็ง สีน้ำตาลปกคลุม ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ กลีบดอกสีขาว ผลสด รูปทรงกลมแกมรูปไข่ สีฟ้าสด เจ็ดช้างสารใหญ่ พบทางภาคตะวันออกเฉียงใต้และภาคใต้ ขึ้นในป่าดิบ ที่ระดับความสูง 50–900 ม. ต่างประเทศพบตั้งแต่อินเดีย บังคลาเทศ เมียนมา จีน ญี่ปุ่น ภูมิภาคอินโดจีน ภูมิภาคมาเลเซีย ถึงปาปัวนิวกีนี ดูเพิ่มเติม... พันธุ์ไม้ดอก ต้นไม้ดอกอะไรขายดีที่สุด? source: สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช

บลูเบอร์รี่ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ได้จริงไหม ประโยชน์ ราคา..

บลูเบอร์รี่ (Blueberry) คืออะไร บลูเบอร์รี่ อยู่ในวงศ์ Ericaceae มีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่เป็นที่นิยมทางการค้า ได้แก่ สายพันธุ์บลูเบอร์รีพุ่มเตี้ย lowbush blueberry ( Vaccinium angustifolium Aiton) สายพันธุ์บลูเบอร์รี่พุ่มสูง (highbush blueberry ( V. corymbosum L.) สายพันธุ์บลูเบอร์รี่แรบบิตอายส์ rabbiteye blueberry ( V. virgatumn Aiton), และสายพันธุ์ยูโรเปียนบิลเบอร์รี European bilberry ( V. myrtillus L.) ซึ่งบลูเบอร์รี่ ได้สมญานามว่าเป็น superfruit เนื่องจากมีการศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านออกซิเดชันมากมาย นอกจากนี้ยังมี การศีกษาทางคลินิกเกี่ยวกับการลดความดันโลหิตสูงด้วย ท็อปปิ้ง พาย บลูเบอร์รี่ เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » สารสำคัญ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผลบลูเบอร์รี่พุ่มสูงและบลูเบอร์รี่พุ่มเตี้ย ที่น้ำหนักสด 100 ก. มีปริมาณสาร กลุ่มแอนโทไซยานิน เท่ากับ 387 และ 487 มก. ตามลำดับ สารแอนโทไซยานินที่สำคัญ ได้แก่ delphinidin- 3-galactoside, delphinidin-3-glucoside นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่มโพรแอนโ

ต้นไม้มงคล ความหมายดี ปลูกเป็นไม้ประธานในสวน เสริมมงคล

หนังสือ รวมพันธุ์ไม้ต้นในสวน เล่มนี้ เป็นอีกเล่มหนึ่งในชุด Plant Library รวบรวมไม้ต้นน่าปลูกไว้มากกว่า 200 ชนิดทั้งชนิดเก่าและชนิดใหม่ที่เป็นที่นิยม ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่ผู้ปลูกสามารถใช้เป็นหลักประกันด้านธุรกิจ หรือใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ แต่ละต้นระบุชื่ออื่นๆ และชื่อไทยที่ใช้เรียก ชื่อวิทยาศาสตร์ ถิ่นกำเนิด และลักษณะเด่นที่สำคัญ เทคนิคการปลูก ช่วงเวลาที่ออกดอกและติดผล ประโยชน์ด้านสมุนไพร เกร็ดความรู้ที่ผู้ปลูกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมแนะนำแหล่งจำหน่ายไม้ต้น และไม้ล้อมให้กับผู้สนใจ หนังสือ รวมพันธุ์ไม้ต้นในสวน เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » ต้นไม้มงคล ความหมายดี ปลูกเป็นไม้ประธานในสวนก็ได้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและความเย็น ความร่มรื่นให้บ้าน ตามความเชื่อช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล 1.ต้นล่ำซำ ต้นล่ำซำ หรือ ต้นหูหนู ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Diospyros buxifolia (Blume) Hiern จัดอยู่ในวงศ์  Ebenaceae จัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ลำต้นมีเปลือกแตกเป็นร่องสีเทาอมดำ ใบเป็นลักษณะใบเดี่ยวสีเขียวรูปไข่ มีดอกสีขาว และจะออกดอกแยกเพ

มณฑาดอย ไม้ดอกหอมในวงศ์จำปี แมกโนเลียของไทย หายาก.

มณฑาดอย เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของไทย ที่มีลักษณะเด่น ทั้งในด้านของการเป็นพรรณไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมแรง สีสันสวยงาม มีดอกขนาดใหญ่กว่ามณฑาและขึ้นอยู่บนภูเขาตามดอยต่างๆ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่พบเห็น จึงเป็นที่มาของชื่อ มณฑาดอย ส่วนชื่ออื่นที่คนเรียกกันบ้างก็คือ ตองแข็ง, บุณฑา, บุณฑาดอย มณฑาดอย มณฑาดอย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Magnolia hodgsonii (Hook.f. & Thomson) H.Keng วงศ์ Magnoliaceae เป็นพรรณไม้วงศ์จำปาที่มีการกระจายพันธุ์ในป่าดิบเขาและป่าดิบชื้น ตามริมลำธาร และในหุบเขา ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 660-1,300 ม. ในต่างประเทศพบที่อินเดีย พม่า ลาว และเวียดนาม มีการค้นพบมณฑาดอยครั้งแรกในประเทศไทย บนดอยสูงทางภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ต่อมาก็พบบนดอยที่ต่ำลงมาในจังหวัดอื่นๆ เช่น แม่ฮ่องสอน ตาก จนกระทั่งพบบนเนินเขาที่ไม่สูงนักในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศ แต่ก็ยังคงสภาพความงามของดอกที่ทั้งใหญ่ สวยงามและมีกลิ่นหอม photo by 责任编辑:徐晔春 ต้นมณฑาดอยเป็นพรรณไม้ที่มีทรงพุ่มกลม ค่อนข้างแน่นทึบ เนื่องจากมีใบขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงเหมาะที่จะปลูกเป็นไม้ใ

ต้นจำลา ไม้ดอกหอม วงศ์จำปีของไทย ไม้หายาก ใกล้สูญพันธุ์..

จำลา เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของไทยอีกชนิดหนึ่งในวงศ์จำปา ที่มีดอกสวยงามและกลิ่นหอมหวาน จนทำให้หลายคนยากจะห้ามใจ นำเมล็ดของจำลาไปเพาะ เพื่อปลูกไว้เชยชมอย่างใกล้ชิด แต่เป็นพรรณไม้หายาก ที่พบเฉพาะตามริมลำธารในป่าดิบชื้น และในหุบเขา ทางภาคใต้ตอนล่างในจังหวัดสงขลาและพังงาเท่านั้น ... จำลา จำลา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Magnolia praecalva (Dandy) Figlar & Noot. วงศ์จำปี Magnoliaceae ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่จำลาไม่อาจขยายพันธุ์ได้นอกถิ่นกำเนิด เพราะแม้แต่ในถิ่นกำเนิดในหุบเขาที่ระดับความสูง 400-600 ม. เมล็ดของจำลาก็ถูกเชื้อราในดินทำลายจนไม่อาจงอกเป็นต้นใหม่ได้ photo by Satha Suesatcha การขยายพันธุ์จำลาจึงไม่อาจกระทำได้ แม้จะมีความพยายามที่จะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการอื่นๆ เช่นการทาบกิ่ง เสียบยอด ตอนกิ่ง หรือปักชำ ก็ล้วนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เนื่องจากจำลาเป็นพรรณไม้ที่มีพันธุกรรมห่างจากพรรณไม้อื่นชนิดที่อยู่ในสกุลจำปา ดังนั้นเมื่อนำต้นตอจำปามาทาบ เนื้อไม้ของจำปากับจำลาจึงเข้ากันไม่ได้ ทำให้ทาบไม่ติดด้วยชะตากรรมอันแสนเศร้าเช่นนี้เอง พรรณไม้ชนิดนี้จึงถูกเรียกขานว่า "จำลา" โดยผู

ผิวขาวกระจ่างใส ด้วยแตงกวา ได้จริงไหม ประโยชน์ สรรพคุณ...

แตงกวา ( Cucumis sativus L.) เป็นไม้เลื้อย ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนแข็ง มือเกาะไม่แยกแขนง ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่มี 3-5 เหลี่ยมหรือเว้าตื้น ๆ เป็น 3-5 แฉก ปลายใบแหลม ขอบใบ หยักแบบซี่ฟัน โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอกเพศผู้และเพศเมียหรือดอกสมบูรณ์เพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกเพศ ผู้ออกเป็นกระจุกที่ง่ามใบ กลีบดอกเชื่อมติดกันที่โคนเป็นรูประฆัง ปลายแยกเป็นแฉกแคบ ๆ 5 แฉก ผิวย่น และมีขน สีเหลือง เกสรเพศผู้มี 3 อัน ก้านไม่ติดกัน อับเรณูติดอยู่ด้านนอก ดอกเพศเมีย มีลักษณะเหมือนดอก เพศผู้ รังไข่มี 3 ช่อง ผลมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันมาก ผลอ่อนมีตุ่มเล็กกระจายทั่วไป สีเขียวอ่อนถึงเขียว เข้ม ผลแก่สีเหลือง หรือสีเหลืองแกมน้ำตาล เมล็ดมีจํานวนมาก รูปไข่หรือรูปรี แบน สีขาว สรรพคุณตามแผนโบราณ ผล บรรเทาอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง น้ำจากผล ทำให้ผิวชุ่มชื้น การศึกษาทางคลินิกและการทดลอง มีรายงานการศึกษาทางคลินิกทําให้ผิวขาว โดยเป็นการศึกษาแบบปกปิดฝ่ายเดียว (one-sided blind study) ในผู้ที่มีสุขภาพดีจำนวน 21 คน อายุระหว่าง 21 - 35 ปี โดยทุกคนจะได้รับครีมทาผิว 2 ชนิด ครี

ต้นเฟื่องฟ้า ลักษณะ ใช้ประโยชน์ สรรพคุณ วิธีปลูกให้ออกดอก..

ต้นเฟื่องฟ้า คืออะไร ต้นเฟื่องฟ้า หรือมีชื่ออื่นว่า ต้นตรุษจีน, ดอกกระดาษ อยู่ในสกุล Bougainvillea วงศ์ Nyctaginaceae ซึ่งจะมีอยู่ 2 ชนิดที่มีลักษณะคล้ายใกล้เคียงกันมาก คือ Bougainvillea glabra (Lesser Bougainvillea) และ Bougainvillea spectabilis (Great Bougainvillea) ซึ่งชื่อวิทยาศาสตร์ ทั้งสองชนิดนี้ ต่างก็มีชื่อเรียกที่เป็นชื่อไทยว่า "เฟื่องฟ้า" ด้วยเหมือนกัน ต้นเฟื่องฟ้า เป็นไม้ยืนต้น ที่ปลูกได้ไม่ยาก ต้องการแสงแดดมากในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน หากได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้สีของใบไม่เข้มและจะมีดอกน้อย อุณหภูมิที่ต้องการ ปานกลางหรือร้อนและชื้น เมื่อโตขึ้นต้องการน้ำปานกลางถึงค่อนข้างต่ำ หากรดน้ำมากเกินไปก็จะไม่ออกดอก ต้นเฟื่องฟ้า ราคาถูก ต้นละ35บาท เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » ประวัติเฟื่องฟ้า เฟื่องฟ้าถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศบราซิลโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสราว ค.ศ. 1766–1769 และได้ถูกนำไปปลูกยังส่วนต่าง ๆ ของโลก เริ่มจากยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย สำหรับใน

กล้วยไม้ป่า เอื้องครั่งแสด (เอื้องสายสีแสด) ออกดอกเดือนไหน.

กล้วยไม้ป่า เอื้องครั่งแสด หรือ เอื้องกำลังเอก, เอื้องสายสีแสด ชนิดนี้พบครั้งแรกของโลกบนภูบักได เขตรักษาพันธุ์ฯภูหลวง จ.เลย เมื่อปี พ.ศ.2513 โดย ศจ.Gunnar Seidenfaden อดีตเอกอัครราชทูตชาวเดนมาร์คประจำประเทศไทย และ ศจ. ดร.เต็ม สมิตินันท์ เอื้องครั่งแสด, เอื้องกำลังเอก, เอื้องสายสีแสด เอื้องครั่งแสด ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Dendrobium unicum Seidenf. เป็นพันธุ์พืชในกลุ่มไม้ดอก (Flowering Plants) ในสกุล Dendrobium ซึ่งถูกจัดอยู่ในวงศ์ Orchidaceae photo by Natureman Thaimountain ชื่อสกุล Dendrobium มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก 2 คำ คือคำว่า dendro แปลวา ไม้ต้น และคำว่า bios แปลว่า สิ่งมีชีวิต ความหมายก็คือ“สิ่งมีชีวิตที่อาศัยบนต้นไม้” ส่วนชื่อชนิด unicum มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินคำว่า unicus แปลว่า หนึ่งเดียว อาจหมายถึง “สันกลางกลีบปากดอกที่มีเพียงสันเดียว” ชื่อพื้นเมือง (ชื่อท้องถิ่น): เอื้องกำลังเอก , เอื้องสายสีแสด(ภาคกลาง) ถิ่นกำเนิด พืชสกุลนี้ทั่วโลกพบ 1,586 ชนิด ในเมืองไทยพบอย่างน้อย 166 ชนิด สำหรับชนิดนี้พบอิงอาศัยตามต้นไม้ บางครั้งพบอิงอาศัยตามก้อนหิน พบในป่าผลัดใบ

ต้นพวงคราม ดอกสีม่วง/สีขาว วิธีปลูกพวงคราม ให้ออกดอกดก..

เนื้อหาข้อมูล ต้นพวงคราม คือต้นอะไร พวงครามพันธุ์ต่างๆ มีกี่ชนิด มีกี่สี ต้นพวงคราม ราคาถูก ซื้อที่ไหน พวงคราม ชื่อวิทยาศาสตร์ ลักษณะ พวงคราม ปลูกต้นพวงครามให้ออกดอกดก วิธีการขยายพันธุ์ พวงคราม ประโยชน์ พวงคราม ต้นพวงคราม คือต้นอะไร ต้นพวงคราม เป็นไม้เลื้อยที่ออกดอกเป็นช่อสีม่วงคราม สะพรั่ง โดดเด่น สะดุดตา สวยงามมาก จึงนิยมการทำซุ้มปลูกต้นพวงคราม ให้เลื้อยขึ้นซุ้ม ปลูกในบ้านได้ หรือแนวรั้วหน้าบ้าน ชื่อไทยของพรรณไม้ชนิดนี้ มีชื่อทางการ ว่า " พวงคราม " ซึ่งอ้างอิงตามข้อมูลชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย โดย เต็ม สมิตินันทน์ (ฉบับแก้ไขปรับปรุง พ.ศ. 2557) และยังมีชื่ออื่น ๆ ที่เป็นชื่อพื้นเมือง หรือ ชื่อท้องถิ่น อีกคือ  ช่อม่วง  (ต้นช่อม่วง) เป็นต้น ต้นพวงคราม มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางจากปานามาถึงเม็กซิโก และหมู่เกาะเวสต์อินดีส ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปในเขตร้อน โตเร็ว ต้นพวงคราม สีม่วง ดอกใหญ่ เช็คราคา / ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👇 กดปุ่มนี้เลยค่ะ .. กดเลย!! เช็คราคาล่าสุด ที่ Lazada » พวงครามสายพันธุ์ต่างๆ มีกี่ชนิด มีกี่สี พ