Lazada Flash Sale

โปรฟ้าผ่า!! รับซัมเมอร์

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

แบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส ม.เกษตรฯ ประโยชน์ วิธีใช้ ราคา?

ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกและประเทศไทย หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องอาหารการกิน กระแสของอาหารปลอดภัยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้รักสุขภาพและผู้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ทำให้เกิดการรณรงค์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การทำเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยเริ่มมีการพัฒนาและกระจายเพิ่มมากขึ้น การนำ "ชีวภัณฑ์" มาใช้เพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืชจึงเป็นที่สนใจในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

แบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส ม.เกษตรฯ กำแพงแสน

บาซิลลัส ซับทิลิส ม.เกษตรศาสตร์

แบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส (เบอร์1) ควบคุมโรคเหี่ยวจากเชื้อแบคทีเรีย ควบคุมการผลิตโดย ห้องปฏิบัติการควบคุมโรงพืชโดยชีวภาพ ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร กำแพงแสน ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นครปฐม

รายละเอียดเพิ่มเติม

ชีวภัณฑ์ แบคทีเรีย บีเอส

กรมวิชาการเกษตรโดยสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช (สอพ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการศึกษาวิจัยเทคโนโลยี การป้องกันกำจัดศัตรูพืช จึงได้ทำการศึกษาวิจัยจนได้ชีวภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 16 ชนิด ที่ใช้ในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช

ซึ่งทาง สอพ. ได้มีการถ่ายทอดชีวภัณฑ์ ดังกล่าวไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร (ศวพ.) สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร (สวพ.) และกลุ่มเกษตรกรไปใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทั้งโรคพืชและแมลงศัตรูพืชแล้ว

ชีวภัณฑ์บีเอส เป็นชีวภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกัน กำจัดโรคแอนแทรคโนสพริก (โรคกุ้งแห้ง) ซึ่งเป็นโรคที่รุนแรงและเป็นปัญหาในแปลงปลูกพริกมาอย่างต่อเนื่อง ชีวภัณฑ์บีเอสทั้งสองไอโซเลทจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ สอพ. วิจัยขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวโดยมุ่งเน้นเพื่อนำไปใช้ในระบบการผลิตพริกอินทรีย์หรือระบบการผลิตพริกแบบ GAP ต่อไป

ชีวภัณฑ์ คืออะไร

ชีวภัณฑ์ เริ่มเป็นคำที่ฮิตติดหูในวงการเกษตร แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าชีวภัณฑ์คืออะไร ชีวภัณฑ์ คือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือพัฒนามาจากสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืชสัตว์ หรือจุลินทรีย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำใช้ประโยชน์ทางด้านใดด้านหนึ่ง โดยในทางการเกษตรส่วนใหญ่นำมาใช้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ไม่ว่าจะเป็นโรคพืชหรือแมลงศัตรูพืช เป็นต้น

ชีวภัณฑ์บีเอส เป็นชีวภัณฑ์ที่ผลิตจากแบคทีเรียบาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus subtilis) ไอโซเลท 20W33 และ 20W16 ที่แยกได้จากน้ำล้างเมล็ดข้าวเปลือก ซึ่งทางกลุ่มวิจัยโรคพืช สอพ. ได้เก็บไว้ในแหล่งเก็บรักษาจุลินทรีย์ (culture collection) ของกลุ่มฯ

โดยเริ่มจากการนำแบคทีเรียบาซิลลัสจำนวน 135 ไอโซเลท มาทดสอบประสิทธิภาพเบื้องต้นในห้องปฏิบัติดูการยับยั้งเส้นใยของเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides สาเหตุโรคกุ้งแห้งพริกบนจานอาหารเลี้ยงเชื้อ จากนั้นนำไปทดสอบประสิทธิภาพในการควบคุมโรคในแปลงปลูกพริก 4 ฤดูปลูก จนมั่นใจว่าไอโซเลท 20W33 และ 20W16 มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันกำจัดโรคกุ้งแห้ง จึงนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สูตรผงละลายน้ำ

รู้จัก แบคทีเรีย บาซิลลัส (Bacillus)

บาซิลลัสเป็นแบคทีเรียที่มีรูปร่างเป็นท่อน (rod shape) ย้อมติดสีแกรมบวก (gram positive bacteria) อยู่ในวงศ์ Bacillaceae สามารถสร้างแคปซูล (capsule) ได้ สามารถสร้างสปอร์ (bacterial spore) ที่เรียกว่า เอ็นโดสปอร์ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญได้ดี

เมื่อบาซิลลัสเปลี่ยนเป็นสปอร์จะเข้าสู่ระยะพักตัว สปอร์จะงอกและแปลงสภาพตัวเองกลับมางอกเป็นรูปเซลล์แบคทีเรียได้โดยง่ายเมื่อสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เช่น มีน้ำหรือความชื้นที่เหมาะสม พบได้ทั่วไปในดิน น้ำเศษวัสดุปลูก หรือซากพืชต่าง ๆ บางชนิดสามารถผลิตเอนไซม์ เช่น อะไมเลส (amylase) ที่ย่อยสลายโมเลกุลแป้ง หรือโปรตีเอส (protease) ที่ย่อยสลายโมเลกุลของโปรตีน เป็นต้น 

ประโยชน์ แบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส

แบคทีเรียกลุ่มนี้มีความปลอดภัยสูง และสามารถเพาะเลี้ยงได้ง่าย และมีความคงทนในสภาพแวดล้อมในสภาวะที่มีแสงแดดจัดหรือรังสีอุลตร้าไวโอเลต สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลายชนิด จึงทำให้แบคทีเรียชนิดนี้ ถูกนำมาผลิตเป็นชีวภัณฑ์ เพื่อใช้ในการควบคุมโรคพืช และผลิตเป็นการค้าเพื่อจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมันนี ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ตลอดจนนำไปใช้เป็นโปรไบโอติคในอุตสาหกรรมฟาร์มเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นต้น

การผลิตชีวภัณฑ์ บีเอส

  • ขั้นตอนที่ 1: เลี้ยงแบคทีเรีย B. subtilis บนอาหาร Potato sucrose agar (PSA) หรือ Tryptic Soy Agar ที่เทเตรียมไว้แล้วบ่มเชื้อไว้ 3 วัน
  • ขั้นตอนที่ 2: เติมสารละลาย 2.45% MgSO4.7H2O ที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 200 มล. ต่อจานอาหาร ขูดเชื้อออก
  • ขั้นตอนที่ 3: เติมสารละลาย 2.5% Carboxymethyl-cellulose sodium salt (CMC) ปริมาตร 250 มล.ลงในบีกเกอร์คนผสมให้เข้ากัน
  • ขั้นตอนที่ 4: เทสารละลายที่ได้ผสมลงในเกาลิน อัตรา 400 มล. ต่อเกาลิน 800 กรัม
  • ขั้นตอนที่ 5: คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วผึ่งให้แห้ง เมื่อแห้งดีแล้วจึงนำไป บดให้ละเอียด
  • ขั้นตอนที่ 6: สุ่มชีวภัณฑ์นำมาตรวจปริมาณบนอาหาร PSA 
  • ขั้นตอนที่ 7: นำมาบรรจุถุงฟอยล์

โรคแอนแทรคโนสพริก โรคกุ้งแห้งพริก

โรคแอนแทรคโนส หรือ โรคกุ้งแห้งพริก เป็นโรคที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดผลเสียต่อการผลิตพริก สาเหตุเกิดจากเชื้อรา C. gloeosporioides C.capcisi และ C. piperatum ทำความเสียหายให้แก่พริกเกือบทุกชนิดในทุกแหล่งปลูก ลักษณะอาการบนผลพริกเป็นจุดช้ำสีน้ำตาล เนื้อเยื่อบุ๋มยุบตัวเป็นวงกลมหรือวงรีรูปไข่

โรคแอนแทรคโนสพริก โรคกุ้งแห้งพริก

ถ้าเชื้อราเข้าระยะผลอ่อน ทำให้ผลบิดเบี้ยว คล้ายกุ้งแห้ง ชาวบ้านจึงมักเรียกว่า "โรคกุ้งแห้ง" เมื่ออาการรุนแรงผลจะเน่าและร่วงไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ ในแปลงที่ระบาดรุนแรง พบว่าผลผลิตลดลงมากกว่า 50% เชื้อนี้สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วในสภาพความชื้นสูง 

วิธีใช้ ชีวภัณฑ์บีเอส

ชีวภัณฑ์บีเอสเป็นชีวภัณฑ์ชนิดผงโดยใช้เกาลินเป็นสารพา จึงมีคุณสมบัติที่ละลายน้ำได้ดี โดยใช้อัตรา 40 - 50 กรัมผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อเริ่ม พบการระบาดของโรค หรือเมื่อพริกเริ่มออกดอก หลังจากนั้นพ่นอีกทุก 5 วัน เป็นจำนวน 4 - 5 ครั้ง แต่เนื่องจากโรคนี้ สามารถเข้าทำลายพืชได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช และแฝงตัวอยู่บนต้นพริกโดยที่อาจจะยังไม่แสดงอาการของโรค

ดังนั้น ในแปลงที่เคยพบการระบาดของโรค หรือในช่วงที่มีฝนตกชุก ควรเริ่มพ่นตั้งแต่ระยะหลังย้ายกล้าพริก หลังจากนั้นพ่นทุก 5 วัน จนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จสิ้น การขับเคลื่อนชีวภัณฑ์สู่การใช้ประโยชน์ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินงานขยายผลชีวภัณฑ์บีเอสควบคุมโรคกุ้งแห้งพริกสู่ระดับชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงชีวภัณฑ์และนำไปประโยชน์ได้จริง ในพื้นที่ปลูกพริกในหลายพื้นที่โดยความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น

- ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช พื้นที่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่าเมื่อพ่นชีวภัณฑ์ในระยะออกดอกสามารถลดการเกิดโรคของแอนแทรคโนสได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

- ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา นำไปทดลองใช้ในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา พบว่าหลังจากพ่นชีวภัณฑ์ในช่วงระยะออกดอก สามารถลดการเกิดโรคของแอนแทรคโนสพริกได้ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

- สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 จังหวัดอุบลราชธานีได้นำชีวภัณฑ์บีเอสไปแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.ม่วงสามสิบ อ.สำโรง และ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี หลังจากการพ่นชีวภัณฑ์ในช่วงระยะออกดอกพบว่าสามารถลดการเกิดโรคของแอนแทรคโนสพริกได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

- สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกได้นำชีวภัณฑ์บีเอสไปแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยพ่นชีวภัณฑ์ตั้งแต่ในระยะกล้าจนกระทั่งถึงช่วงระยะออกดอก ผลปรากฏว่าไม่พบการระบาดของโรคกุ้งแห้งพริกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต 

นอกจากนี้กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตพริกส่งออกในพื้นที่ ต.นครเดิฐ อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย ได้ทำการพ่นชีวภัณฑ์บีเอสตั้งแต่ระยะกล้าจนกระทั่งเก็บผลผลิต พบว่าสามารถควบคุมโรคได้จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตในขณะนี้ทางสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช พร้อมที่จะขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ โดยถ่ายทอดให้ทางภาคเอกชนนำไปพัฒนาเป็นเชิงการค้า เพื่อให้เกษตรกรได้เข้าถึงมากขึ้นต่อไปในอนาคต

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร.

รายละเอียดเพิ่มเติม