✓ต้นไม้: พลับพลึงป่า (กระเทียมช้าง) ลักษณะ ประโยชน์ กินได้?
พลับพลึงป่า (Crinum lily)
ชื่อวิทยาศาสตร์ (ชื่อพฤกษศาสตร์)
พลับพลึงป่า ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Crinum amoenum Ker Gawl. ex Roxb. จัดเป็นพืชในสกุล Crinum อยู่ในวงศ์พลับพลึง (Amaryllidaceae) ซึ่งพันธุ์พืชนี้ ทางเราจัดไว้ในกลุ่มสมุนไพร
ชื่อพ้อง (Synonyms)
- Crinum himalense Royle
- Crinum verecundum Carey ex Herb.
ชื่อไทย
ชื่อที่เป็นทางการ หรือ ชื่อราชการของพืชชนิดนี้ มีชื่อไทยว่า กระเทียมช้าง (อ้างอิงจากข้อมูลชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย; เต็ม สมิตินันท์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557)
ต้นกระเทียมช้าง ยังมีชื่ออื่น ๆ ที่เป็นชื่อพื้นเมือง หรือชื่อท้องถิ่น ว่า กระเทียมช้าง (กรุงเทพฯ), พลับพลึง พลับพลึงป่า (อ.มัญจาคีรี ขอนแก่น), กำพรึง (เขมร-อ.ท่าตูม สุรินทร์), นิงงอย (ส่วย-อ.ท่าตูม สุรินทร์) และมีชื่อสามัญ (ภาษาอังกฤษ) ว่า Crinum lily
นิเวศวิทยา
ต้นพลับพลึงป่า (กระเทียมช้าง) ในประเทศไทยพบขึ้นตามพื้นที่ชื้นแฉะ นาข้าว หรือขอบบึง ที่ระดับน้ำลึกไม่เกิน 50 ซม. ในที่โล่งแจ้ง
การกระจายพันธุ์
การกระจายพันธุ์ของพลับพลึงป่า (กระเทียมช้าง) เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกา ปัจจุบันกลายเป็นวัชพืชในนาข้าว พบทั่วประเทศไทย และเขตร้อนทั่วโลก
พลับพลึงป่า ออกดอกเดือนไหน
ต้นพลับพลึงป่า (กระเทียมช้าง) ออกดอกและผลตลอดปี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพลับพลึงป่า
- ลักษณะวิสัย: ไม้น้ำล้มลุก
- ลำต้น: มีรากยึดติดกับพื้นดินท้องน้ำ ต้นสูง 40-100 ซม.
- ใบ: ก้านใบและก้านช่อดอกเป็นสามเหลี่ยม ใบยื่นพ้นน้ำ รูปไข่กว้าง ยาว 10-25 ซม. ปลายกลมหรือมีติ่งแหลม โคนใบกลมหรือหยักรูปหัวใจ เนื้อใบอ่อนนุ่ม เกลี้ยงและมีไขเคลือบนวลไม่ติดน้ำ เส้นแขนงใบออกจากโคนใบข้างละ 3-5 เส้น เส้นใบย่อยเรียงตามแนวขวางจำนวนมาก ก้านใบยาว 15-80 ซม. โคนก้านใบสีม่วงอมน้ำตาลและมีกาบ
- ดอก: ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม ออกที่ยอด มี 3-12 ดอก ก้านช่อยาว 10-60 ซม. กลีบเลี้ยงสีเขียว มี 3 กลีบ กลีบดอกสีเหลือง มี 3 กลีบ รูปไข่กว้างเกือบกลม ยาว 2-2.5 ซม. เมื่อดอกบานกว้าง 3-5 ซม. เกสรเพศผู้สีเหลือง มีจำนวนมาก รูปแถบยาว
- ผล: ผลแตกแนวเดียวจากด้านใน รูปครึ่งวงกลม ผลย่อยยาว 1-1.6 ซม.
- เมล็ด: มีเมล็ดจำนวนมาก รูปตัวยู
ประโยชน์
การใช้ประโยชน์ของพลับพลึงป่า สามารถนำมาเป็นอาหาร โดยใช้ช่อดอกอ่อน ใบอ่อน และก้านอ่อน มีเนื้อกรอบ รสขมเล็กน้อย เป็นผักสดกินแกล้มส้มตำ หรือลวกจิ้มน้ำพริก หรือย่างกินกับลาบปลาตอง