ปุ๋ยออสโมโค้ท สูตร 13-13-13 ราคาถูก ซื้อที่ไหน วิธีใช้ ใส่ยังไง
Osmocote สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาข้อมูลและราคา ปุ๋ยเม็ดสีเหลือง หรือ ปุ๋ยออสโมโค้ท สูตรเสมอ 13-13-13 สูตรบำรุงต้นและใบ ช่วยบำรุงต้นให้สมบูรณ์ แข็งแรงโตไว ใบเขียวเข้ม และใช้สำหรับเตรียมต้นให้สมบูรณ์ เพื่อพร้อมต่อการผลิใบและออกดอก ที่คนขายต้นไม้นิยมใช้กัน เพราะใช้แล้วได้ผลจริง และใส่แค่เพียงครั้งเดียว ต้นไม้สามารถได้รับปุ๋ยยาวนานต่อเนื่องนานได้ถึง 3 เดือน
ปุ๋ยเคมี ออสโมโค้ท 13-13-13 (Osmocote 13-13-13)
- ยี่ห้อ: โซตัส (Sotus)
- ประเภท: ปุ๋ยเคมี (ปุ๋ยเม็ดชนิดพิเศษ ปุ๋ยละลายช้า)
- ชื่อการค้า: ออสโมโค้ท 13-13-13 (Osmocote 13-13-13)
- สูตรปุ๋ย: สูตรบำรุงต้นและใบให้สมบูรณ์แข็งแรง
ข้อดีของปุ๋ยออสโมโค้ท Osmocote คือ เป็นปุ๋ยละลายช้า หมายถึงเม็ดปุ๋ยจะค่อย ๆ ปล่อยธาตุอาหารให้ซึมผ่านผิวเปลือกออกมาทีละน้อย อย่างช้า ๆ จึงสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืชออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ยาวนานถึง 3 เดือน ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่เป็นอันตรายต่อรากพืช
ปุ๋ยออสโมโค้ทจึงปลอดภัยกับต้นไม้ และสามารถสัมผัสกับรากพืชได้โดยตรง ไม่ต้องกลัวว่าการปลูกต้นไม้จะทำให้ต้นไม้เกิดอาการน๊อคปุ๋ย หรือ ช็อกปุ๋ย จนใบไหม้ เหี่ยวเฉา แห้ง และบางครั้งอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ เนื่องจากความเค็มของปุ๋ยสูงเหมือนปุ๋ยทั่วๆ ไป และไม่เกิดอาการรากเน่าหลังการใช้ปุ๋ย
ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13 ช่วยอะไร?
ปุ๋ยออสโมโค้ท สูตรเสมอ 13-13-13 เป็นปุ๋ยเม็ดชนิดพิเศษ ที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรองที่พืชจำเป็นต้องใช้ในการเจริญเติบโตอย่างครบถ้วนและเหมาะสม ช่วยบำรุงต้นและใบให้สมบูรณ์ แข็งแรง โตไว ใบเขียวเข้ม และใช้สำหรับเตรียมต้นให้สมบูรณ์ เพื่อพร้อมต่อการผลิใบและออกดอก
คุณสมบัติ ปุ๋ยออสโมโค้ท ดีไหม?
ปุ๋ยออสโมโค้ท ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เพื่อให้เปลือกของเม็ดปุ๋ยแต่ละเม็ด เปลือกเคลือบผิวด้วยสารเรซินธรรมชาติชนิดพิเศษ (Natural Organic Resin) ที่ทำจากน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะ เมื่อธาตุอาหารในเม็ดปุ๋ยหมดไปแล้ว เปลือกสารเคลือบเรซินที่เหลืออยู่จะย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ดินแน่น ไม่ทำให้ดินเสีย ไม่มีสารตกค้าง และยังช่วยปรับโครงสร้างดินอีกด้วย
การทำงานของปุ๋ยออสโมโค้ท
การทำงานของปุ๋ยออสโมโค้ท จะเริ่มทำงานทันทีเมื่อใส่เม็ดปุ๋ยลงไปในดินหรือวัสดุปลูก เมื่อเม็ดปุ๋ยได้รับน้ำ น้ำจะค่อยๆ ซึมผ่านชั้นผิวเปลือก(เรซิน) ที่ห่อหุ้มเม็ดปุ๋ยอยู่ โดยจะเข้าไปละลายธาตุอาหารภายในเม็ดปุ๋ย
หลังจากนั้นธาตุอาหารจะค่อยๆ ซึมผ่านชั้นเปลือกของสารเคลือบ (เรซิน) โดยขบวนการซึมผ่านแบบออสโมซิส(Osmosis) ออกมาทีละน้อย ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่เป็นอันตรายต่อรากพืช
ซึ่งจากคุณสมบัติพิเศษนี้ ปุ๋ยออสโมโค้ทจึงแตกต่างจากปุ๋ยเม็ดชนิดอื่นๆ คือ ปุ๋ยออสโมโค้ทจะไม่ละลายทันทีเหมือนปุ๋ยทั่วไป จึงปลอดภัยต่อระบบรากพืช พืชไม่แสดงอาการช็อกและไม่เกิดใบไหม้หลังการใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยออสโมโค้ท สูตร 13-13-13 คือ ?
ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยละลายช้า ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13 เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท สก๊อตส์ (Scotts) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีปริมาณธาตุอาหารรับรอง คือ
- ไนโตรเจน(N) ทั้งหมด..........13%
- ฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์(P2O5)..........13%
- โพแทชที่ละลายน้ำ(K2O)..........13%
ประโยชน์ ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13
ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13 เหมาะสำหรับ ไม้ใบ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผัก ไม้กระถาง ไม้คลุมดิน ไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ทั้งภายในและภายนอกอาคารสำนักงาน หรือบ้านพักอาศัย
อาทิเช่น กล้วยไม้ ลีลาวดี อโกลนีมา กุหลาบ โป๊ยเซียน เฟื่องฟ้า มะลิ ดาวเรือง เยอบีร่า ชวนชม ปาล์ม โกสน เฟิร์น บอนสี หน้าวัว ว่าน ไม้กระถางในอาคารและสำนักงาน
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ใส่ในถุงเพาะชำกล้าไม้ต่างๆ และใช้บำรุงต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้าน ทั้งไม้ใบ ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผล เช่น ขนุน มะม่วง กล้วย เป็นต้น
วิธีใช้ ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13 ใส่ยังไง
- ใช้โรยรองก้นหลุม หรือ รองก้นกระถาง ก่อนปลูกในกระถาง แล้วรดน้ำตามปกติ
- ใช้โรยบนผิวดิน ในกระถางหรือถุงเพาะชำ แล้วใช้ดินกลบเล็กน้อย
อัตราการใช้ปุ๋ยออสโมโค้ท 13-13-13
- กระถางขนาด 5 นิ้ว ใช้ 5 กรัม (1 ช้อนชา)
- กระถางขนาด 10 นิ้ว ใช้ 10 กรัม (2 ช้อนชา)
- กระถางขนาด 20 นิ้ว ใช้ 20 กรัม (4 ช้อนชา)
วิธีใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท ผสมดินปลูก หรือวัสดุปลูกอื่นๆ
- ผสม “ออสโมโค้ท” อัตรา 2-3 กิโลกรัมต่อวัสดุปลูก 1 ลูกบาศก์เมตร (1 คิว) เพื่อใช้ปลูกไม้ใบ ไม้กระถาง ถุงเพาะชำ และ ใช้จัดสวน
- หว่านออสโมโค้ทในแปลงเพาะชำ หรือแปลงไม้ดอก ใช้อัตรา 40-60 กรัม (4-6 ช้อนโต๊ะ) ต่อตารางเมตร
- สำหรับกล้วยไม้ ใช้ออสโมโค้ทโรยบนกาบมะพร้าวหรือวัสดุปลูกอื่นๆ ใช้อัตรา 2-3 กรัมต่อกอ
วิธีการเก็บรักษา : ควรเก็บปุ๋ยออสโมโค้ท ให้มิดชิดในภาชนะเดิมที่ปิดแน่นและมีฉลากติดอยู่ สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น อย่าให้ถูกความร้อน แสงแดด และฝน ห่างจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ