✓ต้นไม้: หน่อสับปะรดภูแล พันธุ์แท้ กินอร่อยทั้งเนื้อและแกน?
สับปะรดภูแล เชียงราย ผลเล็ก ทรงกลม เนื้อสีเหลือง กรอบ กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบ กินได้ทั้งเนื้อและแกน สับปะรดภูแลเชียงราย ( Chiangrai Phulae Pineapple ) หมายถึง สับปะรดในกลุ่มควีน ซึ่งปลูกในตําบลนางแล ตําบลท่าสุด และตําบลบ้านดู่อําเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ขอบเขตที่ตั้งแหล่งภูมิศาสตร์
image : technologychaoban.com
ขอบเขตการปลูกสับปะรดภูแลเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ตําบลนางแล ตําบลท่าสุด และตําบลบ้านดู่ อําเภอเมืองจังหวัดเชียงราย
หน่อสับปะรดภูแล
ลักษณะของสินค้า สับปะรดภูแล เชียงราย
(1) พันธุ์สับปะรด : เป็นสับปะรดในกลุ่มควีน
(2) ลักษณะทางกายภาพ
- ผล ขนาดเล็ก มีน้ำหนักตั้งแต่ 150 กรัม – 1000 กรัม ความยาวของจุกโดยเฉลี่ย 1-1.5 เท่าของความยาวผล ตัวจุกมีลักษณะชี้ตรง
- ตาผล ตาเต่งตึงโปนออกมาจากผลอย่างเห็นได้ชัด
- เปลือก เปลือกค่อนข้างหนา เหมาะสําหรับการขนส่งระยะไกล เมื่อสุกเปลือกผลจะมีสีเหลืองหรือเหลืองปนเขียว
- เนื้อ เนื้อสีเหลือง กรอบ กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบ รับประทานได้
- รสชาติ มีความหวานปานกลาง
- ใบ ใบเรียวเล็ก สีเขียวอ่อนและมีแถบสีชมพูบริเวณกลางใบ ขอบใบมีหนามเรียงชิดติดกันตลอดความยาวของใบ
(3) ลักษณะทางเคมี : มีปริมาณกรดโดยรวม เฉลี่ยร้อยละ 0.45 ความหวานอยู่ระหว่าง 14-16 brix
กระบวนการผลิต การปลูกสับปะรดภูแล เชียงราย
(1) ปลูกได้ตลอดปี การปลูกใช้ได้ทั้งระบบการปลูกแบบแถวเดี่ยวและแถวคู่
- แถวเดี่ยว ระหว่างต้น 25 เซนติเมตร ระหว่างแถว 100 เซนติเมตร
- แถวคู่ ระหว่างต้น 30 เซนติเมตร ระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ระหว่างแถวคู่ 100 เซนติเมตร
(2) การเตรียมพันธุ์
- ใช้หน่อพันธ์และจุกพันธ์ที่เกิดในพื้นที่ตําบลนางแล ตําบลท่าสุดและตําบลบ้านดู่อําเภอเมืองจังหวัดเชียงรายเท่านั้น
- หน่อพันธุ์(Aerial sucker) หรือหน่อข้าง เลือกหน่อที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ความยาวหน่อประมาณ 30 เซนติเมตร น้ำหนักหน่อประมาณ 250 กรัม
- จุกพันธุ์(Crown) เป็นส่วนที่ติดกับผลสับปะรด เลือกจุกที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เพื่อให้ออกดอกได้ผลพร้อมกัน
การเก็บเกี่ยวสับปะรดภูแล เชียงราย
เก็บเกี่ยวหลังจากออกดอกประมาณ 120 ถึง 150 วัน อาจมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ในระหว่างการเก็บเกี่ยว เกษตรกรต้องตัดผลผลิตใส่ภาชนะ เพื่อมิให้เกิดการปนเปื้อนของเศษดิน หรือวัสดุอื่น หลังจากนั้นนํามาคัดเกรด ทําความสะอาดและบรรจุในหีบห่อเพื่อจัดส่ง
การบรรจุหีบห่อสับปะรดภูแล เชียงราย
รายละเอียดบนฉลาก ให้ประกอบด้วยคําว่า "สับปะรดภูแลเชียงราย" และ/หรือ "Chiangrai Phulae pineapple"
ความสัมพันธ์ระหว่างสินค้ากับแหล่งภูมิศาสตร์
ลักษณะภูมิประเทศพื้นที่ตําบลนางแล ตําบลท่าสุด และตําบลบ้านดู่อําเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบ ที่ราบเชิงเขา เนินเขา และภูเขาสูง อยู่ในด้านทิศตะวันตก อันเป็นแหล่งกําเนิดลําห้วยหลายสายเป็นแหล่งน้ำที่สําคัญ
พื้นที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางเฉลี่ยประมาณ 400 เมตร ทําให้อากาศเย็นสบาย แต่มีอากาศหนาวในฤดูหนาว ประกอบกับสภาพพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่มีความลาดเอียง ทําให้การปลูกสับปะรดในพื้นที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโรครากเน่า
ลักษณะของดินระบายน้ำได้ดี การซึมซับของน้ำอยู่ในระดับปานกลาง การไหลบ่าของน้ำผิวดินอยู่ในระดับปานกลางถึงเร็ว ระดับน้ำใต้ดินไม่ลึก และดินมีแร่ธาตุต่างๆ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม คาร์บอน ไนโตรเจน
ลักษณะภูมิอากาศ มีอุณหภูมิเฉลี่ย24 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนตกโดยเฉลี่ย 1757.4 มิลลิเมตรต่อปี จํานวนวันฝนตกเฉลี่ย 140 วันในหนึ่งปีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยร้อยละ 76
ประวัติความเป็นมา สับปะรดภูแล เชียงราย
เมื่อปี พ.ศ. 2520 นายเอนก ประทีป ณ ถลาง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ได้นําหน่อพันธ์สับปะรดภูเก็ต ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสายพันธ์ควีนจากจังหวัดภูเก็ต มาปลูกครั้งแรกที่ตําบลนางแล อําเภอเมือง จังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นแหล่งภูมิศาสตร์ของสับปะรดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคเป็นอย่างดีคือ สับปะรดนางแล
แต่ด้วยปัจจัยทางธรรมชาติและปัจจัยจากมนุษย์ ทําให้สับปะรดที่ปลูกได้ในแหล่งภูมิศาสตร์นี้ มีลักษณะที่แตกต่างจากสับปะรดภูเก็ต คือขนาดผลเล็ก รูปร่างทรงกลม จุกใหญ่ตั้งตรง รับประทานได้ทั้งเนื้อและแกน ซึ่งต่อมาได้เรียกชื่อสับปะรดดังกล่าวว่า "สับปะรดภูแล"
โดยการนําเอาชื่อ "ภูเก็ต" ซึ่งเป็นแหล่งปลูกเดิม มาผสมคํากับแหล่งปลูกใหม่คือ "นางแล" และขยายพื้นที่การปลูกครอบคลุมสามตําบล คือ ตําบลนางแล ตําบลท่าสุด และตําบลบ้านดู่ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
เงื่อนไขที่นายทะเบียนกําหนดตามมาตรา 15
- จัดให้มีระบบการตรวจสอบและควบคุม ทั้งกระบวนการผลิต ในระดับผู้ผลิต และระดับจังหวัด
- จัดให้มีการขึ้นทะเบียนสมาชิกเกษตรกรผู้เพาะปลูก และผู้จําหน่าย ที่ประสงค์จะขอใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สับปะรดภูแลเชียงราย
- ผู้ขอขึ้นทะเบียนต้องจัดทําคู่มือการปฏิบัติงาน สําหรับสมาชิกผู้ขอใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สับปะรดภูแลเชียงราย
การพิสูจน์แหล่งกําเนิด
- สับปะรดภูแลเชียงรายจะต้องมีการปลูกในเขตพื้นที่ตําบลนางแล ตําบลท่าสุด และตําบลบ้านดู่อําเภอเมืองจังหวัดเชียงราย ตามกระบวนการผลิตข้างต้น
- กระบวนการผลิตจะต้องได้ผ่านการควบคุมตรวจสอบ คือ มีการขึ้นทะเบียนสมาชิกเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดภูแลเชียงราย รวมทั้งต้องมีเอกสารกํากับเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับได้
อ้างอิง - ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา