Lazada Flash Sale

โปรฟ้าผ่า!! รับซัมเมอร์

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

✓ต้นไม้: พรหมพิมพ์ใจ วว.11 พรหมลูกผสม (พรหมพนมxกลาย)?

ต้นพรหมพิมพ์ใจ (พรหม วว.11) พรหมลูกผสมใหม่ ระหว่าง พรหมพนม x กลาย ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกชั้นนอก สีเหลืองอ่อน กลีบดอกชั้นใน สีชมพูลายแดง ดอกมีกลิ่นหอม

พรหมพิมพ์ใจ (พรหม วว.11)

พรหมพิมพ์ใจ (พรหม วว.11) พันธุ์ใหม่ โดยผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน คือสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้ยื่นเรื่องขอหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียน 

ต้นพรหมพิมพ์ใจ วว.11 ลูกผสมใหม่ (พรหมพนม x กลาย)

โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการตรวจสอบลักษณะประจำพันธุ์เบื้องต้นของพืชที่ยื่นคำขอ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ประกาศลักษณะประจำพันธุ์เบื้องต้นของพรหมพิมพ์ใจ ให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2562

รายละเอียดเพิ่มเติม

แหล่งที่มาและประวัติพันธุ์

พรหมพิมพ์ใจ (พรหม วว.11) เป็นลูกผสมของพืชสกุลมหาพรหม ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ ข้ามชนิดระหว่าง พรหมพนม (Mitrephora monocarpa R.M.K.Saunders & Chalermglin, sp. nov.) (แม่พันธุ์) และกลาย (Mitrephora keithii Ridl.) (พ่อพันธุ์) พัฒนาพันธุ์โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เริ่มคัดเลือกต้นแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และทำการผสมในปี พ.ศ. 2560

เมื่อติดผลและเมล็ดจึงนำมาเพาะ ได้ต้นกล้าจำนวน 2 ต้น ออกดอกครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 จากนั้นจึงปลูกทดสอบการเจริญเติบโต และตรวจสอบระยะเวลาการออกดอก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 – 2562 ในปี พ.ศ. 2562 ทำการขยายพันธุ์โดยวิธีการต่อกิ่งลูกผสมดังกล่าว ณ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยมี ดร. อนันต์ พิริยะภัทรกิจ สังกัดศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นนักปรับปรุงพันธุ์

ลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์

พรหมพิมพ์ใจ (พรหม วว.11) ชื่อวิทยาศาสตร์ Mitrephora monocarpa x keithii วงศ์ Annonaceae ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก

ราก : รากเป็นระบบรากแก้ว (tap root) มีลักษณะช่วงโคนโตแล้วเรียวเล็กลงจนถึงปลาย และมีรากแขนง (lateral root) รากอ่อนสีน้ำตาลอ่อน รากแก่สีน้ำตาล

ต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก (perennial plant) ความสูงของลำต้น 50 –80 เซนติเมตร เปลือกลำต้น สีน้ำตาลอ่อน และผิวเรียบ

ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับ (alternate) ใบรูปหอก (lanceolate) ปลายใบแหลม (acuminate) ขอบใบเรียบ (entire) ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน สีเขียว แผ่นใบบาง เส้นใบเด่นชัด มีขนาดกว้าง 3 – 4 เซนติเมตร และยาว 4.5 – 7 เซนติเมตร

ดอก : ดอกเดี่ยว ลักษณะทรงดอกคว่ำ ดอกบานเต็มที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1.5 – 2.5 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง (sepal) จำนวน 3 กลีบ มีกลีบดอกชั้นนอก (outer petal) สีเหลืองอ่อน จำนวน 3 กลีบ ขนาดกว้าง 1 – 1.2 เซนติเมตร และยาว 1.5 – 2 เซนติเมตร

กลีบดอกชั้นใน (inner petal) สีชมพูลายแดง จำนวน 3 กลีบ ส่วนโคนกลีบดอก (torus) สีเหลืองอ่อน บริเวณปลายกลีบโค้งติดกันทรงแหลม สีชมพูอ่อน ขนาดกว้าง 0.5 – 1.0 เซนติเมตร และยาว 1.2 – 1.5 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอมเล็กน้อย บริเวณกลางดอกไม่ปรากฏ เกสรเพศเมีย (pistil) (ดอกเป็นหมัน) โดยรอบมีเกสรเพศผู้ (stamen) จำนวน 55 - 75 อัน ยาว 1 – 1.2 มิลลิเมตร

ผล : ไม่สามารถติดผลได้ เนื่องจากดอกเป็นหมัน

ที่มา : ประกาศกรมวิชาการเกษตร

รายละเอียดเพิ่มเติม