ต้นกลาย (ดอกกลาย)
"กลาย" เป็นพรรณไม้ในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) ที่มีช่วงฤดูดอกบานยาวนานที่สุดชนิดหนึ่ง รองจากกระดังงาสงขลา และกระดังงาจีน
ต้นกลาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitrephora keithii Ridl. วงศ์กระดังงา Annonaceae พรรณไม้ดอกหอมของไทย สำรวจพบโดย A.Keith นักสำรวจพรรณไม้ชาวนิวซีแลนด์ ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงมีชื่อระบุชนิดว่า keithii ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ผู้ที่สำรวจค้นพบครั้งแรก
ต้นกลาย เป็นพรรณไม้ยอดนิยมของบรรดานักชมธรรมชาติและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
เนื่องจากพรรณไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอมจรุงใจ จนหลายคนคิดจะเก็บเมล็ดไปเพาะเพื่อปลูกเลี้ยงบ้าง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะต้นกลายเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์โดยเมล็ดซึ่งมีโอกาสกลายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติ
![ต้นกลาย ไม้ดอกหอม](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhf7abzQKTyRIFEv825RbZSMFDNTZkkhqan_3ZxF5M4_nQLCS6m-0X-IAlVtVmpvwVCQOCLn-ZrK7aVzTB5MqHNzb2nhOOkwtWkEEye1xd4GJO9nSe8W53dMe9zg8A8WLR71bloNb15sKks8nzORepceGcIEW9uPd5-IhNJ5lZ-Faq224eV3z4bNnU6uduS/w640-h640-rw/Mitrephora-keithii.jpg)
ดังนั้นหลายคนจึงพบว่าต้นกลายบางต้นอาจมีเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ หรือบางต้นอาจไม่มีกลิ่นหอมเลย จึงเป็นที่มาของชื่อ "กลาย" ซึ่งหมายถึงการกลายพันธุ์นั่นเอง
ต้นกลาย เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของไทยที่ออกดอกและติดผลตลอดปี ดอกที่เริ่มบานจะมีสีเหลืองนวล พอใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม ส่วนผลกลายที่แก่จะมีสีแดงเข้มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เยื่อหุ้มเมล็ดมีรสหวานจึงเป็นอาหารอันโอชะของสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นกและค้างคาวตัวเล็กๆ
และเมื่อกินผลแก่แล้วไปถ่ายมูลที่อื่นก็เท่ากับเป็นการกระจายเมล็ดได้ดีอีกทางหนึ่ง และจากความมีเสน่ห์ที่มีดอกสวยงาม กลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี จึงได้รับความนิยมนำมาปลูกกันมากขึ้น
ต้นกลายเป็นพรรณไม้ที่กระจายพันธุ์อยู่ในป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี ที่ระดับความสูง 50-700 ม.เหนือระดับน้ำทะเล
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับลงในแปลงที่ร่มรำไร หรือไม้กระถาง เนื่องจากมีดอกดกสีสวย ที่สำคัญคือออกดอกตลอดปี
ส่วนวิธีการเลือกต้นกล้าของต้นกลายเพื่อนำไปปลูกควรเลือกจากต้นที่ดอกมีกลิ่นหอมแรง และเป็นต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด เนื่องจากจะมีทรงพุ่มกลมแน่นสวยงาม แต่อาจจะออกดอกได้ช้าสักหน่อย
![ต้นกลาย ดอกกลาย](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhsqC5riOYm4RSCKZsn4KFhz-qCJQHUupdaSIG-7llfAlLnEECz-y3B_enRQA8PmWJva478E-NbBs5urue37Hatv7fjik681_xq5kxqoy5rFMeokOOr87JFoY4obBbPUK4rvrCAGzqLGMe2TpG2heluB7YeaVAhBjnlAqnNvK2bFNN71aJ4cuqf_TrpsVmW/s1600-rw/Mitrephora-keithii.jpg)
สำหรับผู้ที่เลือกต้นกล้าจากการทาบกิ่ง หรือเสียบกิ่ง ถึงแม้ว่าจะออกดอกในเวลารวดเร็ว แต่ก็จะมีทรงพุ่มที่สูงชะลูด ไม่สง่างามเท่ากับต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด ปัจจุบันต้นกลายเป็นพรรณไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี และไม่มีโอกาสสูญพันธุ์แล้ว
ลักษณะพรรณไม้ของต้นกลาย
ต้นกลาย มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 2-4 ม. เปลือกลำต้นสีน้ำตาลปนดำ แตกเป็นร่องเล็กๆ ตามยาว แตกกิ่งน้อยขนานกับพื้นดิน ทรงพุ่มโปร่ง เนื้อไม้เหนียว ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 3-4 ซม. ยาว 8-12 ซม. แผ่นใบเกลี้ยงเป็นมันทั้งสองด้าน
ดอกกลาย ออกดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อเล็กๆ ตรงข้ามใบ กลีบเลี้ยงเล็กๆ 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียง 2 วง โคนกลีบแต่ละวง เรียงจรดกัน
กลีบวงนอกหนา และยาว 2-2.5 ซม. กลีบวงในขอบกลีบประกบกันคล้ายกระเช้า สั้นกว่ากลีบ ด้านนอกเล็กน้อย ดอกเริ่มบานสีเหลืองนวล ดอกบานอยู่ได้ 2-3 วัน เมื่อใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มส่งกลิ่นหอมแรง
ผลกลาย เป็นแบบผลกลุ่ม มีผลย่อย 7-14 ผล รูปทรงกระบอก ยาว 1.5-2 ซม. เมื่อสุกมีสีแดง เปลือกนิ่ม รสหวาน เมล็ด กลมแบน ขนาด 4-5 มม.
การขยายพันธุ์ต้นกลาย สามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเมล็ด ทาบกิ่ง และเสียบกิ่ง โดยการคัดเลือกแม่พันธุ์ควรเลือกจากต้นที่มีกลิ่นหอมแรงดอกดกและออกดอกตลอดปี
การปลูกต้นกล้าจากการเพาะเมล็ด จะได้ทรงพุ่มที่กลมแน่น สวยงาม แต่การปลูกจากการทาบกิ่งหรือเสียบกิ่ง จะมีทรงพุ่มที่สูงชะลูด