Lazada Flash Sale

โปรฟ้าผ่า!! รับซัมเมอร์

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

✓ต้นไม้: 'โฮย่าสวนผึ้ง' (นมเมียสวนผึ้ง) Hoya mirabilis ราชบุรี?

โฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) เป็นโฮย่าพื้นเมืองของไทยที่พบได้ตาม สถานที่พบคือ เขาแหลม, สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีถิ่นที่อยู่อาศัยคือ ขึ้นบนต้นไม้และกิ่งไม้ พบทั้งบริเวณพื้นที่กึ่งเปิดโล่งและที่ร่ม ในป่าดิบเขา ที่สูงจากระดับทะเล 1050-1100 ม.

โฮย่าสวนผึ้ง Hoya mirabilis

โฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hoya mirabilis Kidyoo

ต้นโฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) โฮย่าไทย Hoya mirabilis

  • ชั้น (Clade/Class) : Mesangiosperms
  • ชั้นย่อย (Clade/Subclass) : Asterids
  • กลุ่ม (Group) : Spermatophytes
  • อันดับ (Order) : Gentianales
  • วงศ์ (Family) : Apocynaceae
  • วงศ์ย่อย (Subfamily) : Asclepiadoideae
  • สกุล (Genus) : Hoya

รายละเอียดเพิ่มเติม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นโฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) ไม้เลื้อยอิงอาศัยขนาดเล็ก ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ รูปรี รูปใบหอก หรือรูปใบหอกกลับ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนรูปลิ่มถึงสอบเรียว ขอบเรียบ โค้งลงเล็กน้อย

ดอกโฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม ด้านบนเว้าเล็กน้อย ออกเหนือซอกใบ มี 5-16 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนถึงสีน้ำตาลอมแดง แยกเป็นแฉกลึก 5 แฉก รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายมน ขอบมีขนครุย มีต่อมขนาดเล็กอยู่ที่โคนระหว่างแฉก

กลีบดอกสีขาวนวลถึงสีขาวอมเหลือง ผิวด้านบนมีขนยาวตรงหนาแน่นที่โคนและขอบแฉกกลีบดอก แฉกกลีบดอกรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม ปลายแหลม โค้งและม้วนลงเล็กน้อย

กะบังรอบสีขาวอมเหลือง รยางค์ประดับรูปขอบขนานแกมรูปไข่ กลุ่มอับเรณูสีเหลือง รูปขอบขนานเบี้ยว ปลายตัด ขอบโปร่งแสง ยื่นยาวไปเหนือขอบด้านหลังของชุดกลุ่มเรณู เกสรเพศเมียมี 2 รังไข่ เกลี้ยง

ผลโฮย่าสวนผึ้ง (นมเมียสวนผึ้ง) ผลแบบผลแตกแนวเดียว รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน เมล็ดรูปขอบขนาน

  • วันที่เก็บตัวอย่าง: 01/07/2011
  • ตัวอย่างต้นแบบ: M. Kidyoo 1503 (holo BCU; iso BKF)
  • ปีที่ตีพิมพ์: ปี 2555

อ้างอิง : ข้อมูลและภาพ จาก พิพิธภัณฑ์พืช ศ.กสิน สุวตะพันธุ์ ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เอกสารอ้างอิง : Kidyoo, M. 2012. “Hoya mirabilis Kidyoo, a New Species of Hoya (Asclepiadaceae) from Western Thailand”. Tropical Natural History 12(1): 21-28.

รายละเอียดเพิ่มเติม