หนอนเจาะยอดกะหล่ำ วงจรชีวิต ลักษณะรูปร่าง พืชอาหาร ป้องกัน วิธีกำจัดศัตรูพืช?
หนอนเจาะยอดกะหล่ำ (cabbage webworm) ชื่อวิทยาศาสตร์ Hellula undalis (Fabricius) วงศ์ Pyralidae อันดับ Lepidoptera
หนอนเจาะยอดกะหล่ำ กัดกินทำลายพืชผักตระกูลกะหล่ำ เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลีกะหล่ำดอก ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักกาดเขียวปลีผักกาดหัว เป็นต้น
หนอนเจาะยอดกะหล่ำ (Cabbage webworm)
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Hellula undalis (Fabricius)
- วงศ์ Pyralidae
- อันดับ Lepidoptera
- ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษ Cabbage webworm
ลักษณะการทําลาย
Photo by EPPO Global Database
หนอนเจาะยอดกะหล่ำ พบระบาดทําความเสียหายกับผักตระกูลกะหล่ำโดยเฉพาะกับกะหล่ำปลีโดยหนอนเจาะเข้าไปกัดกินในส่วนยอดที่กําลังเจริญเติบโต ทําให้ยอดขาด ไม่เข้าปลี หรือกัดกินเข้าไปในส่วนของก้าน และลําต้นเป็นทาง ตัวหนอนมักสร้างใยคลุม และมีขุยมูลที่ถ่ายออกมาบริเวณที่เจาะทําให้กะหล่ำปลีแตกแขนง โดยทั่วไปมักพบการระบาดตลอดทั้งปีแต่พบระบาดมากในฤดูแล้ง
รูปร่างลักษณะหนอนเจาะยอดกะหล่ำ และวงจรชีวิต
ตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่เล็กๆ สีขาวนวลตามยอด หรือยอดตาไข่จะวางเดี่ยว หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ และตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ได้14-255 ฟอง ระยะไข่ 3-5 วัน ไข่จะเป็นสีชมพูและฟักออกเป็นตัวหนอน เมื่อโตขึ้นเจาะเข้าไปกัดกินภายในส่วนยอด โดยสร้างใยปกคลุม
ระยะหนอนมีการเจริญเติบโต 5 ระยะ ใช้เวลา 15-23 วัน หนอนระยะสุดท้ายมีขนาดลําตัวยาวประมาณ 1.2 ซม. ลําตัวมีแถบสีน้ำตาลแดงพาดตามยาว และจะเข้าดักแด้ซึ่งมีใยหุ้มตามเศษพืชผิวดินหรือใต้ดิน ดักแด้มีขนาด 0.6-0.8 ซม. ระยะดักแด้ 7-11 วัน ก็จะฟักเป็นตัวเต็มวัย เป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็ก กางปีก กว้าง 1.7-1.9 ซม. ปีกคู่หน้ามีแถบสีน้ำตาลปนเทาพาดตามขวางโค้งไปมา ตัวเต็มวัยมีอายุเฉลี่ย 6-10วัน วงจรชีวิตหนอนเจาะยอดกะหล่ำเฉลี่ย 30-42วัน หรือ8-12ชั่วอายุขัยต่อปี
พืชอาหาร หนอนเจาะยอดกะหล่ำ
Photo by EPPO Global Database
พืชผักตระกูลกะหล่ำ เช่น ผักคะน้า กะหล่ำปลีกะหล่ำดอก ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักกาดเขียวปลีผักกาดหัว เป็นต้น
ศัตรูธรรมชาติของ หนอนเจาะยอดกะหล่ำ
แมลงศัตรูธรรมชาติที่พบเข้าทําลายหนอนเจาะยอดกะหล่ำเช่น แตนเบียนหนอน Apanteles sp.
การป้องกันและวิธีกําจัดหนอนเจาะยอดกะหล่ำ
1. การใช้วิธีเขตกรรม เช่น การไถดินตากแดด หรือเก็บซากพืชที่ผิวดินทําลาย เพื่อกำจัดดักแด้หนอนเจาะยอดกะหล่ำ
2. การใช้โรงเรือนตาข่ายไนล่อน หรือการปลูกผักกางมุ้ง
3. การใช้สารกำจัดแมลงที่มีประสิทธิภาพป้องกันกําจัด เช่น โพรฟีโนฟอส (ซูเปอร์ครอน 500 อีซี50% อีซี) หรือ โพรไทโอฟอส (โตกุไธออน 50% อีซี) หรือ แลมบ์ดาไซฮาโลทริน (คาราเต้2.5 อีซี2.5% อีซี) อัตรา 40, 40 และ 40 มล./น้ำ 20 ลิตร ตามลําดับ โดยพ่นเมื่อพบไข่หรือหนอนระยะแรกเริ่มเข้าทําลายทุก 4-7วัน และพ่นติดต่อกัน 2-3 ครั้ง.