สตรอว์เบอร์รี (Fragaria x ananassa Duch.) เป็นไม้ผลเขตกึ่งร้อน ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ในปี พ.ศ. 2553 โครงการหลวง ได้มีการนำ สตรอว์เบอร์รี สายพันธุ์ใหม่ มาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเพื่อการค้า คือ สตรอว์เบอร์รี พันธุ์พระราชทาน 80
สตรอว์เบอร์รีปลอดภัย นำไปสู่ สตรอว์เบอร์รีอินทรีย์
สตรอว์เบอร์รี พันธุ์พระราชทาน 80 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับพระราชทานเมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
![สตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ พันธุ์พระราชทาน80](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0JgCMJQvefLsDwUfn1xkYn0hPvg_rOUo93nXnYuq0BgfeF06c0rVEHPjkVlblj_SLM1LGUxGFDX1j-f0vXGnNFLoEdSGxSLJy9ZH_-j4-A-lgVNTd3UZiwmYGQlIcgWuU5yUdxaXMS4XjYLaGrYQBZgDQ1G7RoKgitp-EOwVENN281ImdC7PlosxMmA/w640-h541-rw/strawberry-organic-1.jpg)
เป็นพันธุ์รับประทานสด มีลักษณะเด่นคือ ผลสุกมีกลิ่นหอม มีรสหวานรูปร่างของผลสวยงาม และเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
ทดลองปลูกที่สถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง
สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 เป็นสายพันธุ์ที่นําเมล็ดพันธุ์ลูกผสมจากประเทศญี่ปุ่นมาปลูก ซึ่งต้องการอากาศหนาวเย็นมากกว่าพันธุ์อื่น ๆ คือ ต้องปลูกในพื้นที่ที่มีความสูงตั้งแต่ 800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไปอุณหภูมิเฉลี่ย 16 - 20 องศาเซลเซียส ไม่น้อยกว่า 30 วัน จึงได้นำมาทดลองปลูกที่สถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขางซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกได้ผลดี เนื่องจากมีความสูงประมาณ 1,400 เมตร
สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 มีลักษณะเด่น คือ เมื่อสุกมีกลิ่นหอม และมีรสชาติหวานกว่า ผลมีลักษณะทรงกรวยถึงกลมปลายแหลม น้ำหนักต่อผล 12 - 115 กรัม เนื้อผลแน่นสีแดงสด ลักษณะของใบจะเป็นรูปกลม ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย สีเขียวปานกลางทรงพุ่มตั้งตรง ต้านทานต่อโรคแอนแทรคโนส และราแป้งได้ดี
จากคำแนะนำของ ดร.ทินน์ พรหมโชติ ในการพิจารณาว่าควรปลูกสายพันธุ์ใดในพื้นที่หนึ่ง ๆ อาจต้องคำนึงถึงลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
- การปรับตัว (adaptation) เช่น สภาพพื้นที่ สภาพภูมิอากาศ และการเจริญเติบโต เป็นต้น
- ความต้านทานต่อโรคและแมลง (disease or insect resistance) เช่น การใช้พันธุ์ต้านทานให้ตรงกับปัญหาในพื้นที่ปลูก เป็นต้น
- ความมุ่งหมายการใช้ประโยชน์ (intended use)เช่น การแปรรูป การจำหน่ายในพื้นที่ และการรับประทานสด เป็นต้น
- ช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวผลผลิต (season of ripening) ได้แก่ พันธุ์เบามาก พันธุ์เบา พันธุ์ปานกลาง พันธุ์หนัก และพันธุ์หนักมาก เป็นต้น
การปลูกสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รีเป็นพืชที่มีระบบรากตื้น แต่ต้องการธาตุอาหารสูง มีการระบายน้ำดี การปลูกสตรอว์เบอร์รีที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย เริ่มต้นจากการผลิตไหลให้ปราศจากโรคและแมลง ให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง โดยผลิตจากไหลที่มาจากต้นแม่พันธุ์จากโครงการหลวง มาปลูกในดินผสมที่ประกอบด้วย ดินที่ขุดจากป่าดิบชื้น ซึ่งเป็นดินดำมีฮิวมัสสูง ปุ๋ยชีวภาพผสมจากญี่ปุ่น แกลบดำ แกลบดิบขุยมะพร้าว และปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ (ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย) จากนั้นลงปลูกลงในกระถางขนาด 8, 10 นิ้ว ดูแลรักษาให้เจริญเติบโตแตกกอ และออกไหลเพื่อทำการขยายพันธุ์
![การปลูกสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ ลงกระถางขนาด 8, 10 นิ้ว](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgL8GO4J7k8DcJce428zaSIe758GlndpLKNkhShFn-R9mXh3JePjy6jILXnU96de-oQG7qJr9O6HRQgQ1XWLMkDvfDnxbPN1im-FNwXAdPXkwtIIg86ppW1GyKUHsghw6pDSU7RbYOK9BB32K3Eq4F4b131perXoYl1zcCIHrxtf467wL36KYUZBSAQcw/w640-h440-rw/strawberry-organic-2.jpg)
จากนั้นย้ายปลูกลงดิน มี 3 วิธีการ ดังนี้
การปลูกลงดินแบบทั่วไป
ขึ้นแปลงสูง 50 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 4เมตร โรยปูนขาว ตากแดดทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ ใช้ส่วนผสมดินสำเร็จที่นำมาใช้กับวิธีกรรมที่ผ่านมาผสมกับชีวภาพจากญี่ปุ่นและดินดำ แกลบดิบ ปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ
การปลูกในกระบะไม้ไผ่ยกพื้น
โดยการปลูกบนกระบะที่ทำจากไม้ไผ่ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 8 เมตร สูง 40 เซนติเมตร และยกสูงจากพื้นดิน ประมาณ 1 เมตร แล้วผสมดินปลูก (ส่วนผสมดินผสมสำเร็จสูตรเดียวกันที่ปลูกลงกระถางข้างต้นที่เป็นกระถางแม่พันธุ์)เนื่องจากเป็นแปลงที่ต้องการไหลเพื่อขยายพันธุ์
การปลูกลงกระถางขนาด 8, 10 นิ้ว หรือปลูกลงถุงพลาสติก
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมจากญี่ปุ่น เน้นธาตุฟอสฟอรัสแกลบดำ ขุยมะพร้าว และปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ และใช้กาบมะพร้าวรองก้นกระถาง ข้อดีของการปลูกแบบวิธีนี้ คือสามารถดูแลและควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก
การป้องกันกำจัดศัตรูสตรอว์เบอร์รี
1. โรคสตรอว์เบอร์รี
การปลูกสตรอว์เบอร์รีของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงรายทุกวิธีการปลูกได้มีการเตรียมดินปลูกที่คลุกด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันโรคพืชทางดินจากกรมวิชาการเกษตร สตรอว์เบอร์รีที่ปลูกจึงยังไม่ประสบปัญหาโรคพืช ซึ่งหากมีปัญหาทางศูนย์วิจัยฯ มีนักวิชาการที่พร้อมช่วยกันแก้ไข
2. แมลงและศัตรูพืช
แมลงและศัตรูพืชของสตรอว์เบอร์รี ที่พบเป็นปัญหา ได้แก่
- เพลี้ยแป้ง ในพื้นที่หมู่บ้านดอยช้างมัน เป็นแมลงที่ระบาดหนักกับทุกพืช และติดพืชเกือบทุกชนิดแม้แต่ดอกดาวเรืองที่ไม่มีแมลงอื่นกิน และเพลี้ยแป้งที่นี่ยังติดไปถึงต้นไม้ใบหญ้าทั่วไป ทางศูนย์วิจัยฯ ป้องกันกำจัดโดยการฉีดพ่นหางไหลสกัด และน้ำยาล้างจาน โดยพ่นน้ำยาล้างจานใน ช่วงเวลาที่แดดร้อนจัด ส่วนหางไหลสกัดใช้พ่นเมื่อพบเพลี้ยแป้งระบาดมาก พ่นในเวลาตอนเย็น
- เพลี้ยอ่อน ระบาดในช่วงปลายฤดูฝนและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ป้องกันกำจัดโดยการฉีดพ่นหางไหลสกัด
- ศัตรูพืช คือ กระรอก ป้องกันกำจัดด้วยการใช้กับดัก และส่วนที่ปลูกในโรงเรือน ป้องกันด้วยการใช้ตาข่ายล้อมโรงเรือน
![วิธีการปลูก สตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ พันธุ์พระราชทาน80](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjoAySyK2QSKziZNREsdIG3ziZPIGRiVClz9nf-EtnaKZXxozsGJ9a7WixTunNDZRb1lioZgEjfTYsIHUKWz3vz_2J6rSl7y1Xs7sX0459Z68NOMbA1UrwNC2zTjlre-5hQm5cSGMl6wRZITLVD4NYS5pXUqtQc0HwMUL4kzfzZOroJb9PghBqz5D5Jfg/w640-h485-rw/strawberry-organic-3.jpg)
ข้อได้เปรียบของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย
- มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตรขึ้นไป อุณหภูมิต่ำเกือบตลอดทั้งปีและมีความอุดมสมบูรณ์ของดินสูง
- ที่ผ่านมาเกษตรกรได้สั่งต้นไหลสตรอว์เบอร์รีจากพื้นที่อื่น ที่มีราคาสูง มีค่าขนส่ง และได้ต้นไหลไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ซึ่งหากทางศูนย์วิจัยฯ สามารถผลิตไหลให้เกษตรกรได้จะสามารถสร้างรายได้ให้กรมวิชาการเกษตร และแก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยตรง
- ในพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ปกติมีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี มีโอกาสที่สามารถจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากสตรอว์เบอร์รีได้ตลอด
โอกาสในการทำงานวิจัย และช่วยเหลือเกษตรกร
- โครงการผลิตสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์แบบครบวงจร เพื่อเป็นต้นแบบเกษตรอนุรักษ์เชิงท่องเที่ยว แปลงอินทรีย์ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะผลิตแปลงสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงรายให้เป็นแปลงต้นแบบได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ห่างไกลจากชุมชนและแหล่งทำการเกษตรอื่น ๆ
- ศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ทางชีวภัณฑ์จากกรมวิชาการเกษตร เปรียบเทียบกับวิธีของภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อผลิตสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์
- โครงการศึกษาชนิดของโรค แมลง และสัตว์ศัตรูสตรอว์เบอร์รีในพื้นที่สูงดอยวาวี และแนวทางการกำจัดเบื้องต้น
- โครงการเปรียบเทียบการเจริญเติบโต ความต้านทานศัตรูพืช และผลผลิตของสตรอว์เบอร์รี
- โครงการผลิตไหลสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ดี ให้กับเกษตรกร ความเป็นไปได้ในการผลิตเป็นสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์จากการผลิตสตรอว์เบอร์รีที่ผ่านมาข้างต้น มีความสอดคล้องกับหลักปฏิบัติตามข้อกำหนดของเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด แต่ใช้เฉพาะปุ๋ยเคมีสังเคราะห์เท่านั้น ซึ่งสามารถหาวัตถุดิบแทนปุ๋ยเคมีดังกล่าวได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการผลิตโดยไม่ใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะผลิตสตรอว์เบอร์รีอินทรีย์ที่มีคุณภาพต่อไป
อ้างอิง: ชัยณรงค์ จันทร์แสนตอ และ เกียรติสยาม แก้วดอกรัก; น.ส.พ. กสิกร กรมวิชาการเกษตร