Lazada Flash Sale

โปรฟ้าผ่า!! รับซัมเมอร์

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

แคคตัส แมมขนนกเหลือง (แมมมิลลาเรีย ไชเดียน่า) มีกี่พันธุ์ ดอกสีอะไรบ้าง วิธีปลูก?

ลักษณะเด่นของกระบองเพชร 'แมมขนนกเหลือง' คือ ลักษณะขนหนามอ่อนนุ่ม ไม่ทิ่มตำนิ้วมือ ไม่อันตราย ขนหนามสีเหลืองเข้ม สีเหลืองอ่อน ไปจนถึงขนสีขาว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบหนามและชอบจับสัมผัสต้นไม้

แมมขนนกเหลือง Mammillaria schiedeana

แคคตัส 'แมมขนนกเหลือง' ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Mammillaria schiedeana C.Ehrenb. (แมมมิลลาเรีย ไชเดียน่า) เป็นสปีชีส์ในกลุ่มพืชดอก Angiosperms โดยอยู่ในสกุลแมมมิลลาเรีย Mammillaria ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์กระบองเพชร Cactaceae.

ชื่อสกุลแมมมิลลาเรีย "Mammillaria" มาจากภาษาละติน mammilla หมายถึง "nipple" บ่งบอกถึงลักษณะของตุ่มหนาม หรือ เนินหนาม , คำระบุชนิด "schiedeana" มาจากชื่อของ Christian Julius Wilhelm Schiede เป็นแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน

กระบองเพชร แมมขนนกเหลือง (Mammillaria schiedeana)

ปัจจุบันนิยมปลูกแมมขนนกเหลือง ที่มีการผสมข้ามพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์ให้ลักษณะหนาม มีหลายแบบหลายสี และดอกมีหลายเฉดสี ดอกสีขาว สีขาวอมชมพู สีชมพูอ่อน สีขมพูเข้ม มีให้เลือกปลูกสะสมได้ตามใจชอบ ลักษณะลำต้นเป็นทรงกลม เติบโตเป็นลำ ยาวไปเรื่อย ๆ แตกหน่อด้านข้างเป็นฟอร์มกอ ออกดอกได้ตลอดปี

รายละเอียดเพิ่มเติม

ชื่อพ้อง Synonyms:

  • Cactus schiedeanus (C.Ehrenb.) Kuntze
  • Chilita schiedeana (C.Ehrenb.) Orcutt
  • Ebnerella schiedeana (C.Ehrenb.) Buxb.
  • Escobariopsis schiedeana (C.Ehrenb.) Doweld
  • Neomammillaria schiedeana (C.Ehrenb.) Britton & Rose

ในธรรมชาติที่พบ ยังแบ่งได้อีก 2 ชนิดย่อย คือ

  • Mammillaria schiedeana subsp. dumetorum (J.A.Purpus) D.R.Hunt ดอกสีขาวนวล มีขนหนามมาก
  • Mammillaria schiedeana subsp. giselae (Mart.-Aval. & Glass) Lüthy ดอกสีชมพู มีขนหนามน้อย

ถิ่นกำเนิดของ 'แมมขนนกเหลือง' เป็นไม้เฉพาะถิ่น (Endemic species) ซึ่งเป็นพรรณไม้ต่างถิ่น (Introduced species) มีการกระจายพันธุ์ในถิ่นกำเนิดที่พบในประเทศเม็กซิโก เท่านั้น ถิ่นที่อยู่ในธรรมชาติ พบขึ้นอาศัยอยู่บนเขาหินปูนและเนินหิน ที่ระดับความสูง 1,300 ถึง 1,600 ม. ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปลูกเป็นไม้ประดับ

แมมมิลลาเรียขนนกเหลือง (Mammillaria schiedeana) เป็นแคคตัสสายดอกที่ให้ดอกได้ง่ายมากๆ เริ่มให้ดอกในช่วงอายุปีกว่าๆ ถึง 2 ปีขึ้นไป ลักษณะของแมมขนนกเหลืองมีลักษณะหนามที่มีสีสันของขนหนามที่หลากหลายกว่า มีทั้งขนหนามสีขาว ,สีเหลือง ,สีเหลืองทอง ,สีออกโทนแดง ฯลฯ

ลักษณะหนามแมมขนนกเหลืองบางต้นมีหนามจุกปุยๆ ตรงปลายยอดพูหนามด้วย และระหว่างตุ่มหนาม บางต้นตรงปลายยอดพูหนามมีหนามพุ่งออกมา บางต้นก็จะมีเป็นปุยขาวลักษณะปุยนุ่นคล้ายสำลีแทรกอยู่ด้วย

ความหลากหลายของแมมขนนกเหลืองมีเยอะมาก ถ้าเพื่อนๆจะเลือกซื้อมาสะสม คงต้องมีโรงเรือนใหญ่โตพอสมควร 555 เพราะทุกต้นจะสวยและแปลก แบบว่าต้นนั้นก็สวยต้นนี้ก็แปลก อยากมีเยอะๆ มีเงินหมื่นหมดหมื่นกันเลยทีเดียว

ลักษณะของดอกแมมขนนกเหลือง

จุดเด่นของแมมขนนกเหลืองคือสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปีเลยนะคะ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นและสารอาหารที่เพียงพอ แต่ฤดูหนาวเป็นฤดูที่ออกดอกเยอะมากๆ ลักษณะของดอกแมมขนนกเหลืองก็จะเหมือนแมมขนนกขาวเลย แต่ออกดอกเก่งกว่า

กลีบดอกก็มีหลายแบบนะ บางคนหลงใหลแมมขนนกเหลืองที่กลีบดอก บางต้นดอกเล็กจิ๋ว บางต้นดอกใหญ่ บางคนเน้นที่สีดอกเป็นหลัก และถ้ามีการปรับปรุงพันธุ์ทำให้แมมขนนกเหลืองมีกลิ่นหอมได้ คงเริ่ดมากเลย ^^ จะหอมตลอดทั้งวันทั้งปีเลย

สีดอกของแมมขนนกเหลืองที่พบได้บ่อยคือ ดอกสีขาว และดอกสีชมพู ดอกสีม่วง มีดอกสีโทนออกแดงเข้มบ้าง ปัจจุบันสวนแคคตัสใหญ่ๆ สามารถปรับปรุงพันธุ์ทำให้มีดอกสีส้ม นักสะสมหลายคนตามหา "แมมขนนกเหลืองดอกสีส้ม" อยากมีไว้ครอบครอง ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง อาจจะต้องรอให้ราคาลดลงกว่านี้

ส่วนแมมขนนกเหลืองดอกสีแดง ราคาไม่แพงมากแล้วสามารถเลือกซื้อมาสะสมชื่นชมดอกสวยๆได้ไม่ยากค่ะ ดอกของแมมขนนกเหลือง จะบานในช่วงตอนเวลาสายๆจนถึงเย็น และหุบ ระยะเวลาออกดอก 2-3 วัน ก็จะโรย

วิธีผสมเกสรแมมขนนกเหลือง

วิธีผสมเกสรแมมขนนกเหลือง ก็ง่ายมากๆค่ะ สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ฟอเซป ,แหนบ หรือ พู่กัน แล้วแต่ความถนัดเลย ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้เจาะจงที่จะปรับปรุงสายพันธุ์ ก็จะนิยมใช้เป็นพู่กันปลายเล็กๆ แปะเกสรตัวผู้ของต้นหนึ่ง ไปแปะที่เกสรตัวเมียของต้นที่สอง และต้นอื่นๆ ได้เลย

การขยายพันธุ์แมมขนนกเหลือง

การขยายพันธุ์แมมขนนกเหลืองทำได้ง่ายๆเลยค่ะ ยิ่งดอกออกตลอดทั้งปีแบบนี้ ผสมเกสรกันเพลินๆไปเลย การขยายพันธุ์มีหลายวิธีด้วยกัน เช่นการเพาะเมล็ดพันธุ์ ,การชำหน่อ ,การปาดยอดให้แตกกอ

ในสกุลแมมมิลลาเรีย ก็สามารถผสมข้ามกันไปมาได้นะคะ ส่วนจะติดฝักและมีเมล็ดมั้ย เราก็ต้องมาลุ้นกันอีกที ซึ่งจะมีไม้ที่เป็นลูกผสม หรือ ไฮปริด ( Hybrid ) ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้มีความหลากหลายในลักษณะของขนหนาม โดยไม้เมล็ดที่ออกมานั้น จะมีลักษณะเด่นของทั้ง 2 ชนิดผสมกัน ส่วนใหญ่แมมขนนกเหลืองที่ขายก็เป็นไม้เพาะเมล็ดทั้งนั้นเลย

แมมขนนกเหลืองเลี้ยงง่าย โรงเรือนที่เราเองที่ปลูกเลี้ยงแมมขนนกเหลือง จะเป็นแบบโล่งๆ ลมผ่านได้ดี มีต้นไม้ใหญ่รอบๆ การรดน้ำโดยส่วนตัวของเรา รดน้ำ 1ครั้ง/สัปดาห์ ถ้าฤดูฝนก็เว้นระยะเวลาออกไปอีกนิดเพราะอากาศชื้น 

วิธีการเลี้ยงดูแลแคคตัส แมมขนนกเหลือง

การปลูกเลี้ยงและดูแล ต้นกระบองเพชร 'แมมขนนกเหลือง'ให้ออกดอกและเจริญสมบูรณ์งอกงามดี ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน อากาศถ่ายเท ชอบดินปลูกโปร่ง ๆ ระบายน้ำดี แห้งเร็ว ไม่ชอบน้ำชื้นแฉะ เน่าง่าย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ และเพาะเมล็ด โดยเก็บผลแก่สุกเป็นสีเหลืองหรือแดง

1.แสงแดด

แสงแดดจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเลี้ยงแคคตัสเลย แมมขนนกเหลืองชอบแดดค่อนข้างจัด 60-80 % แดดยาวนานต่อเนื่อง 6-8 ชั่วโมง จะทำให้ต้นกลมฟอร์มสวย แสงแดดน้อยจะทำให้ขนหนามกางออก ไม่กลมมน ฟอร์มต้นไม่สวย ลำต้นยืดยาว

และถ้าแมมขนนกเหลืองต้นยืด เพื่อนๆไม่ต้องกังวลนะคะ ไม่ต้องทิ้ง ให้ทำฟอร์มกอโดยการปาดยอดไปเลย จะเอายอดไปกราฟหรือจะชำก็ได้ และปรับเปลี่ยนแสงแดดให้เหมาะสมกับต้นไม้ที่เราเลี้ยงไปในตัวเลย 

เพื่อนๆเคยเจออาการไหม้แดดกันมั้ย? เมื่อก่อนด้วยความไม่รู้ มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัส เจออาการไหม้แดด ต้นนิ่ม จากการที่เราซื้อต้นไม้มาใหม่แล้วเอาออกไปวางรวมกับต้นอื่นๆ ในโรงเรือน

ซึ่งจริงๆแล้ว ต้นไม้ที่เราซื้อมาใหม่ สิ่งที่เราจะทำอย่างแรกคือ ฉีดพ่นยาและพักต้นไม้ไว้ในที่รำไร พลางสแลน วางไว้ก่อน 1-2 วัน ค่อยๆขยับออกแดด ต้องรอให้ต้นไม้ปรับตัวก่อน จะดีที่สุดค่ะ

สำหรับโรงเรือนที่เราปลูกแคคตัส สามารถใช้เป็นโรงเรือนสำเร็จรูป ที่หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น ไทวัสดุ โฮมโปร หรือสั่งซื้อออนไลน์ก็ง่าย หรือสร้างเป็นโรงเรือนไม้เล็กๆก่อนก็ได้ ใช้พลาสติกใสคลุม มีสแลนกรองแสงอีกชั้น สแลนกรองแสงที่เราใช้เลือกซื้อสแลนกรองแสงสีเงิน ความรู้สึกส่วนตัวคือรู้สึกว่าเหมาะกับสาวกแมมมิลลาเรียแบบเราที่สุดจ้า

2.การรดน้ำและดินปลูกแคคตัส

แมมขนนกเหลืองเป็นกระบองเพชรที่ไม่ชอบความชื้น ดินที่ใช้ปลูกก็ต้องโปร่ง ระบายน้ำได้ดี มีความชื้นเล็กน้อย อากาศภายในดินควรจะถ่ายเทได้ดีด้วย หากมีความชื้นสูงก็เสี่ยงกับต้นไม้เน่า หรือเชื้อราได้ สามารถเว้นระยะการรดน้ำได้นานกว่ากระบองเพชรชนิดอื่นๆ

วิธีการดน้ำ คือให้รดจนชุ่มจนน้ำไหลออกรูก้นกระถาง รดน้ำครั้งถัดไปเมื่อดินแห้ง ค่อยรดน้ำ วัสดุปลูกแมมขนนกเหลืองก็ไม่มีสูตรตายตัว ปรับไปตามสถานที่ปลูกเลี้ยง แค่เน้นโปร่งๆ ระบายน้ำได้ดีก็สบายใจได้ค่ะ 

วัสดุปลูกหลักที่เราใช้ผสมดินปลูกแคคตัส เช่น ดินใบก้ามปู ,หินภูเขาไฟ00 ,พีทมอส ,เพอร์ไรท์ ,เวอร์มิคูไลท์ ใส่มูลใส้เดือนบ้างเล็กน้อย ปัจจุบันสามารถสั่งซื้อ "ดินปลูกแคคตัส" ออนไลน์ได้แล้ว แนะนำสำหรับเพื่อนๆที่เป็นมือใหม่นะคะ มีขายแยกแบบเอามาผสมเองก็มี ไม่ต้องซื้อยกกระสอบ

3.การให้ปุ๋ยแคคตัส

การให้ปุ๋ยแมมขนนกเหลือง โดยส่วนตัวไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยในปริมาณที่เยอะและบ่อย การใส่ปุ๋ยเยอะหรือบ่อยเกินไป ทำให้ต้นไม้โตเร็ว อวบอ้วน เสียรูปทรง เราก็เลยให้ในปริมาณที่น้อย เราใส่ปุ๋ยแคคตัสตอนที่เปลี่ยนกระถางใหม่ ใช้ปุ๋ยละลายช้า (ปุ๋ยออสโมโค้ท สูตร 13-13-13) จำนวน 3-4 เม็ด หรือใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยมูลไส้เดือนแทนค่ะ ใส่ปุ๋ยฟ้าผสมน้ำตอนรดน้ำบ้างนิดๆหน่อยๆ

4.โรคและแมลงศัตรูพืชแคคตัส

ถ้าเราเลี้ยงแมมขนนกเหลืองในโรงเรือน สถานที่ที่มีแดดเพียงพอ ไม่มีความชื่นมากเกินไป จะไม่ค่อยปัญหาเรื่องเชื้อรา การดูแลปกป้องโรคและแมลงศัตรูพืช หลักๆ เราใช้ผงสตาร์เกิล จี โรยใกล้ๆกับโคนต้น บางทีก็ผสมดินปลูกไปเลย ส่วนโรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยมีได้แก่ 

  • โรคราสนิม : ในกรณีที่แคคตัสเป็นโรคราสนิม เราใช้รักษาด้วย คาเบนดาซิม ,จอยท์ ,แคปเทน
  • โรคแคงเกอร์ : ในกรณีที่แคคตัสเป็นโรคแคงเกอร์ เราใช้รักษาด้วย ฟังกุราน
  • เพลี้ยหอย, เพลี้ยแป้ง : ในกรณีที่แคคตัสมีเพลี้ยหอย, เพลี้ยแป้งญี่ปุ่นมาเกาะ เราใช้รักษาด้วย เอราท็อกซ์ โดยฉีดพ่นทุก 7 วัน นาน 4-5 รอบ
  • ไรแดง : ในกรณีที่แคคตัสมีไรแดงเกาะ เราใช้รักษาด้วย ออทุส โดยฉีดพ่นทุก 3 วัน นาน 4-5 รอบ

รายละเอียดเพิ่มเติม