1.) ปลูกกุหลาบในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
กุหลาบชอบสถานที่ที่มีแสงแดดส่องถึง และวัสดุปลูกที่ระบายน้ำดี ดังนั้น ควรเลือกใช้วัสดุปลูกที่เหมาะสมและปลูกในที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง (แสงแดดตลอดทั้งวันได้จะดีที่สุด) ซึ่งจะช่วยให้ความชื้นจากใบแห้งได้ไว
2.) ปลูกกุหลาบในสถานที่ ที่อากาศถ่ายเทได้ดี
ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นให้มากพอสมควร หรืออย่างน้อยประมาณ 60-90 cm. เพราะในบ้านเรามีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเป็นลักษณะอากาศที่เชื้อราชอบและเติบโตได้ดี
ดังนั้น การเว้นช่องว่างระหว่างต้นให้อากาศไหลเวียนผ่านได้สะดวกจะช่วยป้องกันเชื้อราได้ดี และควรเลี้ยงกุหลาบในจำนวนที่พอเหมาะกับพื้นที่
ไม่ควรจัดให้กระถางหรือทรงพุ่มเบียดกันจนเกินไป และไม่ควรปลูกกุหลาบใกล้กับพืชชนิดอื่นมากเกินไป ควรตัดแต่งกิ่งที่มีทิศพุ่งเข้าในทรงพุ่มออกเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างกิ่งให้อากาศไหลเวียนดี
3.) รดน้ำอย่างเหมาะสม
พยายามอย่าให้ใบเปียกชื้นเป็นเวลานาน ขณะรดน้ำ จริงอยู่ที่เราไม่สามารถควบคุมไม่ให้ใบเปียกชื้นจากฝนได้ แต่เราก็ไม่ควรเพิ่มความชื้นให้กับใบเพิ่ม เช่น ควรหลีกเลี่ยงการรดน้ำด้วยสปริงเกอร์ แต่เน้นรดน้ำไปที่รากหรือรดลงในกระถางโดยตรง
4.) การตัดแต่งกิ่ง
เด็ด/เก็บใบที่เป็นเชื้อราออกจากต้น และเก็บกวาดใบที่ร่วงหล่นในกระถางหรือแปลงปลูกออกไปทิ้งให้ไกล ไม่ควรนำมาทำปุ๋ยหมัก เพราะสปอร์ของเชื้อราสามารถอยู่บนใบและสามารถแพร่เชื้อซ้ำได้ทุกเมื่อที่มีสภาวะเอื้ออำนวย และหากพบกิ่งดำที่เป็นรอยโรค
แนะนำตัดกิ่งที่แสดงอาการติดเชื้อออกในวันที่ไม่มีฝนเท่านั้น เพราะสปอร์สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำได้ และหลังตัดแต่งกิ่งแล้วให้ป้ายปิดปากแผลด้วยยาทาแผล และฆ่าเชื้อกรรไกรด้วยแอลกอฮอล์
5.) ฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดเชื้อราคุมไว้สม่ำเสมอ
โดยฉีดพ่นให้ทั่วทั้งลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ทั้งบนใบและใต้ใบ รวมถึงฉีดพ่นลงบนผิวของวัสดุปลูกได้ด้วยค่ะ.